หุ้นไทยวันนี้ (15 ก.ย.64) ปิดเพิ่มขึ้น +4.20 จุด ระดับ 1,628.04 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทยวันนี้ (15 ก.ย.64) ปิดเพิ่มขึ้น +4.20 จุด ระดับ 1,628.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,187.40 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

สสว. ประกาศรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติครั้งที่ 13 พร้อมหนุนเข้าสู่ตลาด mai - SET

เปิดแผน กทม. กระจาย ATK จำนวน 2,026,000 ชุด 16 ก.ย. นี้ คนละ 2 ชุด

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,322.20 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,209.40 ล้านบาท ปิดที่ 574.00 บาท ลดลง 8.00 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 2,108.90 ล้านบาท ปิดที่ 82.25 บาท เพิ่มขึ้น +4.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,967.35 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท  ลดลง -0.50  บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,762.23 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

หุ้นไทยวันนี้ (15 ก.ย.64) ปิดครึ่งเช้า     1,628.12 จุด เพิ่มขึ้น +4.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,281.54 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

สสว. ประกาศรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติครั้งที่ 13 พร้อมหนุนเข้าสู่ตลาด mai - SET

เปิดแผน กทม. กระจาย ATK จำนวน 2,026,000 ชุด 16 ก.ย. นี้ คนละ 2 ชุด

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,391.52 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,344.00 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท ลดลง 1.00 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,268.59 ล้านบาท ปิดที่ 580.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,266.35 ล้านบาท ปิดที่ 81.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 824.66 ล้านบาท ปิดที่ 192.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่งตัวสลับบวกลบ โดยได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นต่างประเทศกังวลประเด็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตได้เสนอให้มีการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 21% เป็น 26.5%, กำไรที่ได้จากการลงทุนและเงินปันผลขึ้นเป็น 28.8% ขณะเดียวกัน วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 บ้านเราเพิ่มขึ้น ทำให้ sentiment ตลาดโดยรวมอ่อนตัว

อย่างไรก็ดี ยังมีแรงซื้อกลุ่ม ICT อาท ADVANC, ADVANC ดีดตัวขึ้นมา และกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันโลก ช่วยผลักดันให้ดัชนีดีดขึ้นแดนบวกได้บ้าง

แนวโน้มตลาดหุ้นภาคบ่ายคาดแกว่งตัวบวกลบคล้ายช่วงเช้า เนื่องจากทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบไม่มีนัยเท่าใด ทำให้เกิดการชะลอการลงทุนระหว่างรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด แนวต้านที่ 1,635 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ในกรอบจำกัด ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นลบ โดยเมื่อคืนตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลงไปราว 0.6-0.7% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่ทางรัฐสภาของสหรัฐอาจมีการปรับขึ้นแผนภาษีนิติบุคคล ซึ่งจะกดดันกำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ แต่ทางด้านตลาดหุ้นไทยน่าจะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมัน

ราคาทองวันนี้ – 15 ก.ย. 64 ปรับราคา 5 ครั้ง รูปพรรณบาทละ 28,550

อุตุฯ เตือนไทยระวังฝนตกหนัก - กทม.ตกร้อยละ 60 ของพื้นที่

ที่น่าจะทำให้กลุ่มพลังงานช่วยพยุงตลาดไว้ได้ และยังคงต้องติดตามหุ้นฟรีโฟลทต่ำ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีการปรับตัวลงมา อาจจะมีการรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ น่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการลงทุนในวันนี้ได้ด้วย

สำหรับตลาดภูมิภาคเอเชีย ด้านตลาดญี่ปุ่นเปิดมาเป็นลบ และตลาดเกาหลีใต้เปิดเป็นบวกเล็กน้อยที่ 0.1% ยังไม่มีนัยสำคัญหรือปัจจัยอะไรใหม่ มองว่าตลาดเอเชียวันนี้อาจจะเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ บวกลบสลับกัน อีกทั้งยังคงต้องติดตามตัวเลขการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้าอีกด้วย

ด้าน บล.ไทยพาณิชย์ ระบุ แรงขายหุ้น free float ต่ำกดดัน และรอปัจจัยใหม่กำหนดทิศทาง
 
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ โดยมีกรอบล่างที่ 1620 และ 1614 จุด ตามลำดับ โดยมีปัจจัยกดดันจากแรงขายหุ้น free float ต่ำ ที่มีน้ำหนักต่อดัชนี หลังตลาดฯ จะทบทวนเกณฑ์ free float ต่ำ อีกครั้ง ในการเข้าคำนวณ SET50/SET100 รอบครึ่งแรกปีหน้า ส่วนกรอบบนยังจำกัดที่ 1630 และ 1640 จุด ตามลำดับ เนื่องจากตลาดดูขาดปัจจัยหนุนใหม่ กลยุทธ์การลงทุนใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง

ล็อคเป้าลงทุน : Selective buy ใน 2 ธีม 1) ธีมหลัก: หุ้นแนวโน้มกำไร 3Q64 โตดี/กระทบโควิดจำกัด กลุ่มการแพทย์ BDMS BCH CHG RJH กลุ่ม mid-small cap. WICE TNP SFT 2) ธีม trading idea: 2.1) หุ้นส่งออกได้ประโยชน์บาทอ่อน กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ KCE HANA กลุ่มอาหารเครื่องดื่ม TU OSP 2.2) หุ้น IT distributor COM7 CPW 2.3) หุ้น domestic reopening ที่ราคาหุ้นยังไม่ถึง Pre-COVID AOT CRC ERW ZEN M

แนะนำ TNP คาดกำไร 2H64 โตต่อเนื่องหนุนจากมาตรการรัฐและคลายล็อกดาวน์ ส่วน 4Q64 เตรียมขยายสาขาเพิ่ม และเก็งกำไร NER หลังเซ็นสัญญาลูกค้าอินเดียเพิ่มและ รฟฟ.ชุมชนผ่านการพิจารณารอบเทคนิค คาดกำไร 3Q64 โตเด่น YoY

สถานการณ์อื่นๆ 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (14 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,577.57 จุด ร่วงลง 292.06 จุด (-0.84), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,443.05 จุด ลดลง 25.68 จุด (-0.57%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,037.76 จุด ลดลง 67.82 จุด (-0.45%)

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ 3,651.16 จุด ลดลง 11.44 จุด(-0.31%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ 30,464.17 จุด ลดลง 205.93 จุด (-0.67%) และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,310.03 จุด ลดลง 192.20 จุด (-0.75%)

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 ก.ย.) ปิด 70.75 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.43%

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 ก.ย.) อยู่ที่ 4.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

เงินบาทเปิด 32.92 แนวโน้มอ่อนค่า มีโอกาสแตะ 33 ให้กรอบวันนี้ 32.85 - 33.05 บาท

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ