หุ้นไทย (21 ก.ย.64) ปิดการซื้อขาย +11.80 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทย (21 ก.ย.64) ปิดการซื้อขาย +11.80 จุด ที่ระดับ 1,614.86 จุด มูลค่าการซื้อขาย 83,910.37 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

“เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 เริ่มใช้สิทธิ 1 ต.ค. 64 - 31 ม.ค.65

4 ต.ค. 64 ใช้ "คนละครึ่งซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม ผ่านฟู้ดแอปฯ" ได้ แต่ไม่รวมค่าส่ง

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,006.48 ล้านบาท ปิดที่ 498.00 บาท ลดลง 58.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,103.35 ล้านบาท ปิดที่ 107.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,271.19 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,139.48 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,105.96 ล้านบาท ปิดที่ 62.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

ช่วย ม.33 ม.39 นายจ้าง ทั่วประเทศ "ครม." ไฟเขียว ลดเงินสมทบผู้ประกันตน 3 เดือน

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้กลับมาฟื้นตัวขึ้นหลังวานนี้ปรับตัวลงแรง ส่วนหนึ่งมองว่า ปัญหาหนี้ไชน่า เอเวอร์ แกรนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อันดับที่ 2 ของจีนกระทบระยะสั้นแต่ปัญหาไม่ได้ถึงขนาดลุกลามเป็นวิกฤต เหมือนเลห์แมน บราเธอร์ส

ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะทราบผลในเช้าวันที่ 23 ก.ย.ตามเวลาของไทย โดยตลาดคาดว่า เฟดจะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE Tapering) มองว่าอาจไม่เป็นลบ ซึ่งขึ้นกับขนาดวงเงินที่ปรับลดลงซึ่งตลาดคาดปรับลดลง 2 หมื่นล้านเหรียญ ถ้าออกมาน้อยกว่าที่คาดก็เป็นบวกกับตลาดเพราะเป็นการส่งสัญญาณว่ากว่าจะปรับลดวงเงิน QE ให้หมดก็ต้องใช้เวลากว่าที่จะเข้าสู่การปรับขึ้นดอกเบี้ย จึงทำให้มีบรรยากาศการลงทุนเป็นบวก

แนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้ นายกิจพณ คาดว่ายังมีโอกาสฟื้นต่อ เพราะตลาดรับรู้ข่าวปัญหาหนี้เอเวอร์ แกรนด์แล้ว และการประชุมเฟดไม่น่าจะมี surprise คาดว่าหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มประกันได้รับปัจจัยบวกจากการปรับลด QE รวมทั้งรัฐบาลได้ปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% ก็ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตร(Bond Yield) ทั้งของไทยและต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี SET ต้องยืนเหนือระดับ 1,620 จุดให้ได้ ถ้ายืนไม่ได้มีโอกาสลงไปต่ำกว่าที่ 1,585 จุด

ให้แนวต้านที่ 1,620-1,627 จุด แนวรับที่ 1,605 จุด

หุ้นไทย (21 ก.ย.64) ปิดการซื้อขายเช้า 1,609.60    จุด เพิ่มขึ้น +6.54 จุด มูลค่า 46,467.68 ล้านบาท 

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

ทีมโฆษก แจง ปมถือครองที่ดินชาวต่างชาติ ยืนยันยึดตาม พ.ร.บ.อาคารชุด ปี 51

จ่ายเยียวยารอบ 2 วันนี้ 21 ก.ย.โอน ม.39 ต่อ ม.40 ม.33 ประกันสังคมทบทวนสิทธิ เข้า www.sso.go.th เช็กส...

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,765.64 ล้านบาท ปิดที่ 498.00 บาท ลดลง 58.00 บาท

KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,369.05 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท ลดลง 1.75 บาท

SCGP มูลค่าการซื้อขาย 1,177.91 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,043.40 ล้านบาท ปิดที่ 120.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,031.37 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้กลับมาฟื้นตัวขึ้นได้หลังถูกกดดันจากปัจจัยที่ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของจีนจากปัญหาหนี้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยวันนี้กลับมาได้แรงหนุนจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากที่รัฐบาลเพิ่มสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ จากเดิมที่กำหนดไว้ต้องไม่เกิน 60% เป็นต้องไม่เกิน 70% ต่อจีดีพี ทำให้กลุ่มแบงก์ ปรับตัวขึ้นมา รวมทั้งกลุ่ม Domestic play ที่เข้ามาพยุงตลาดได้ ขณะที่หุ้นกลุ่ม Global play อาจจะยังถูกกดดันจากปัญหาไชน่า เอเวอร์แกรนด์

ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มดีขึ้น เริ่มที่จะมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ อย่างไรก็ตาม วันนี้มีแรงขาย DELTA กดดันดัชนี SET ไป 6 จุด

แนวโน้มตลาดในช่วงบ่ายนี้ คาดว่าอาจจะปรับขึ้นต่อไปได้หลังลงมาทดสอบแนวรับสำคัญ 1,600 จุด ให้แนวต้านไว้ที่ 1,615 จุด แนวรับที่ 1,600 จุด

หุ้นไทย (21 ก.ย.64)  คาดตลาดผันผวน ขณะที่หุ้นโลกดิ่ง กังวลสภาพคล่อง เอเวอร์แกรนด์ของจีน ในประเทศมีปัจจัยบวก ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 และยอดตายลดลง

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดยังคงผันผวนจากปัจจัยเดิม จากประเด็นความเสี่ยงการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE Tapering) ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และยังมีความกังวลต่อตลาดเงินของจีน เรื่องปัญหาสภาพคล่องจากบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ บริษัทอสังหาฯอันดับ 2 ของประเทศจีนอีกด้วย

ราคาทองวันนี้ – 21 ก.ย. 64 ปรับราคา 3 ครั้ง รูปพรรณบาทละ 28,400

อุตุฯ เตือน ฝนตกหนักทั่วไทยระวังน้ำท่วมฉับพลัน

หุ้นไทยวันนี้ (20 ก.ย.64) ปิดการซื้อขายร่วงแรง -22.59 จุด

อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกในประเทศไทย จะมาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดระดับลงมาต่ำกว่า 11,000 รายในวันนี้ และยังคงแนะนำการลงทุนในหุ้นกลุ่มส่งออก อย่าง KCE หรือ TU และอีกหุ้นหนึ่งคือ ILM ซึ่งมีแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/64 จะดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ และอาจเป็นบริษัทที่มีผลกำไรดีกว่าช่วงไตรมาส 2/63 ในขณะที่ภาพรวมของหุ้นกลุ่มค้าปลีกกำไรอาจจะแย่กว่าไตรมาส 2/63

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,580-1,585 จุด และแนวต้านที่ 1,614 จุด

สถานการณ์อื่นๆ 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,970.47 จุด ลดลง 614.41 จุด หรือ -1.78% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,357.73 จุด ลดลง 75.26 จุด หรือ -1.70% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,713.90 จุด ลดลง 330.07 จุด หรือ -2.19%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 30,021.25 จุด ร่วงลง 478.8 จุด หรือ -1.57% ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,867.16 จุด ลดลง 231.98 จุด หรือ -0.96%

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ