หุ้นไทยวันนี้ (1 ต.ค.64) ปิดการซื้อขาย -8.36 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทยวันนี้ (1 ต.ค.64) ปิดการซื้อขาย -8.36 จุด ที่ระดับ 1,627.61 จุด มูลค่า 69,387.66 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

รีบเติม! โออาร์ - บางจาก ปรับขึ้นราคาน้ำมันยกแผง สูงสุด +60 สต. มีผลพรุ่งนี้ตี 5

เช็กเลย! ผู้ประกันตน ม.40 อาชีพอิสระ ได้เงิน คุ้มครองโควิด - สิทธิประโยชน์หากเจ็บป่วย

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,851.55 ล้านบาท ปิดที่ 11.60 บาท ลดลง 0.50 บาท

KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,849.13 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

SCGP มูลค่าการซื้อขาย 2,474.94 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,370.76 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,556.79 ล้านบาท ปิดที่ 64.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ถอยลงมาในลักษณะของการสร้างฐานก่อน คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ติดลบเฉลี่ย 0.5% ในช่วงรอปัจจัยใหม่เข้ามา ซึ่งช่วงสั้นก็ยังเห็นนักลงทุนสถาบันปรับพอร์ตก่อนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะออกมา ซึ่งตลาดบ้านเราผลประกอบการ บจ.งวดไตรมาส 3/64 ที่กำลังทยอยประกาศออกมาก็คาดว่าจะชะลอตัว แต่ไตรมาส 4/64 น่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น จากการลงทุน, ความเชื่อมั่น และเศรษฐกิจที่คาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นได้

อย่างไรก็ดี แนะติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะต้องติดตามต่อไปด้วย

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งตัวในช่วงรอดูปัจจัยจากต่างประเทศ โดยมีแนวรับ 1,625-1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,650 จุด

หุ้นไทยวันนี้ (1 ต.ค.64)    ปิดการซื้อขาย -0.51 จุด  ระดับ 1,605.17 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 75,664.82 ล้านบาท พร้อมหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

ตรวจหวย - ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 ตุลาคม 2564

ใช้จ่ายกินเจ ปี64 ต่ำสุดในรอบ 14 ปี

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,725.80 ล้านบาท ปิดที่ 13.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,613.48 ล้านบาท ปิดที่ 43.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,324.12 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,515.13 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,100.60 ล้านบาท ปิดที่ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.19 บาท

"น้ำท่วม 64 " ประเมินความเสียหาย กว่า 15,000 ล้านบาท

หุ้นไทยวันนี้ (1 ต.ค.64)   ปิดภาคเช้า -6.80 จุด ที่ระดับ 1,598.88 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,471.80 ล้านบาท พร้อมหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

"Squid Game" ขึ้นแท่นซีรีส์ฮิตในเน็ตฟลิกซ์

เปิดสถิติหวยออก 5 ปีย้อนหลัง งวด 1 ต.ค.

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,068.92 ล้านบาท ปิดที่ 13.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,917.91 ล้านบาท ปิดที่ 133.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,329.54 ล้านบาท ปิดที่ 122.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

RCL     มูลค่าการซื้อขาย    964.98 ล้านบาท  ปิดที่   44.50 บาท  ลดลง   2.25 บาท

GULF    มูลค่าการซื้อขาย    916.14 ล้านบาท  ปิดที่   41.75 บาท  เพิ่มขึ้น  0.25 บาท

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงเกือบ 1.6% ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ปรับลงถ้วนหน้า จากความกังวลเงินเฟ้อสูง, การปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รวมถึงในเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐซึ่งสร้างความผันผวนให้ตลาดบ้านเราบ้าง

อย่างไรก็ดี ตลาดโดยรวมอยู่ในโซนแนวรับ 1,596 จุด ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย 3 เดือน มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ หลังจากตลาดบ้านเราผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เริ่มคลี่คลายลง และมีโอกาสปลายปีนี้ภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จะทำให้การบริโภคในประเทศดีขึ้น ซึ่งกลุ่มธนาคารน่าจะได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกลุ่มพลังงานก็ได้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น อย่างหุ้น BANPU, PTTEP เป็นต้น

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมมองเป็นผลกระทบแค่ระยะสั้น เมื่อน้ำลดก็จะมีความช่วยเหลือเข้ามา ประกอบกับมีการซ่อมแซมบ้านเรา ถนนหนทาง ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องน่าจะได้รับประโยชน์ไปด้วย

พร้อมให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐว่าจะออกมาสูงอย่างที่กังวลกันหรือไม่ และติดตามทิศทางราคาพลังงานต่อไป

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งตัว โดยมีแนวรับ 1,596-1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610 จุด

หุ้นไทยวันนี้ (1 ต.ค.64)  แกว่ง Sideway Down พร้อมกลยุทธ์ลงทุน

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่ง Sideway Down ลักษณะซึมตัวลงคล้ายกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบ ตามตลาดสหรัฐฯที่ปรับตัวลง หลังยังไม่สามารถตกกันได้เรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ จึงยังต้องติดตามดูต่อไป แต่ล่าสุดเช้านี้ได้มีการลงนามผ่านงบประมาณชั่วคราวออกมาแล้ว ทำให้ปัญหาความกังวลการปิดหน่วยงานภาครัฐฯของสหรัฐฯหมดไป

ราคาทองวันนี้ – 1 ต.ค. 64 ปรับราคา 2 ครั้ง รูปพรรณบาทละ 28,450

“ปรับโครงสร้างภาษียาสูบใหม่” มีผลบังคับใช้ 1 ต.ค. 2564

อย่างไรก็ตาม ตลาดฯยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯชะลอตัว คือ ตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯปรับขึ้น ทำให้มองโอกาสการปรับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)เข้มงวดขึ้น และราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้น

วันนี้ให้ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ก.ย.ของทั่วโลกที่ทยอยออกมาต่อไป

พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,592 จุด ส่วนแนวต้าน 1,613-1,620 จุด

บล.ไทยพาณิชย์  ติดตามบริเวณ 1592-1600 จุด หากยืนได้มีโอกาสฟื้นตัว
กลยุทธ์การลงทุน:

SET ขาดปัจจัยใหม่หนุน และเผชิญปัจจัยกดดันจาก Sentiment ลบ ตลาดหุ้นต่างประเทศ ทำให้มีแนวโน้มลงหาบริเวณ 1600 และจุดต่ำเดิมที่ 1592 จุด ซึ่งให้เป็นจุดติดตาม หากยืนได้มีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิค ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1610 และ 1622 จุด ตามลำดับ ทั้งนี้ กรณีต่ำกว่า 1592 จุด จะเป็นสัญญาณลบในภาพรวม และดัชนีมีแนวโน้มลงต่อ กลยุทธ์การลงทุนใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง

ล็อคเป้าลงทุน:

> Selective buy ใน 2 ธีม 1) ธีมหลัก: 1.1) หุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานดี BBL BDMS HANA OSP TU 1.2) หุ้นได้อานิสงส์เปิดประเทศ กระตุ้นกำลังซื้อ/ท่องเที่ยว AOT CRC BEM ZEN ERW MINT 2) ธีม trading idea: หุ้น laggards ราคาลงแรง OR OSP TQM MAJOR

> แนะนำ BCP คาดธุรกิจการกลั่นฟื้นตามค่าการกลั่น เช่นเดียวกับธุรกิจการตลาดน้ำมันโตตามปริมาณขายที่เพิ่มจากการกลับมาเปิดเมือง และเก็งกำไร MAJOR คาดงบ 4Q64 พลิกมามีกำไรจากภาครัฐคลายมาตรการคุมเข้ม-ปลายปีหนังฟอร์มยักษ์รอเข้าฉาย

 

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ