เก้าอี้ที่เรียงรายอยู่ภายในร้าน บุตรดา บาร์ ถูกเก็บขึ้นไปวางบนโต๊ะจนฝุ่นเกาะ สะท้อนผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ต่อธุรกิจผับ บาร์ และสถานบันเทิง ที่ถูกปิดมายาวนาน นายเปาว์ สระทองคำ ผู้ประกอบการร้านแห่งนี้ เปิดใจกับทีมข่าวว่า ร้านถูกสั่งปิดมาตั้งแต่ระลอกที่หนึ่ง ระลอกที่สอง จนหลายแห่งเลิกกิจการ เปลี่ยนหุ้นส่วน เปลี่ยนอาชีพกันไปเลย
ส่วนการผ่อนคลายให้ร้านอาหาร ผับ บาร์ ขายแอลกอฮอล์ได้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ นายเปาว์ บอกว่า หากนับแค่ตัวผู้ประกอบการเองพร้อมอยู่แล้ว
“พลภูมิ” วอน รัฐบาล เยียวยาผู้ประกอบการสถานบันเทิง-คนทำงานกลางคืน
พนักงานนวด-นักดนตรี รับผลกระทบโควิด-19
แต่สิ่งที่ไม่พร้อมคือ พนักงานเพราะหลายคนกลับภูมิลำเนาไปแล้ว บางคนเป็นแรงงานต่างด้าว ซึ่งก็กลับประเทศกันไปแล้ว
พอจะเปิดร้านก็ไม่มีพนักงานมาทำงาน บางคนที่ยังอยู่ก็ยังไม่ได้รับวัคซีน เพราะอาชีพนี้ไม่มีอะไรมาการันตีได้เลยว่าจะถูกปิดอีกเมื่อไหร่ หากเปิดมาได้ 1 สัปดาห์แล้วถูกสั่งปิด เงินที่ลงทุนไปครั้งละหลายแสนบาทก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หรือลูกจ้างต่างด้าวจะกลับมาต้องทำอย่างไร จึงอยากให้ภาครัฐมีความชัดเจนบ้างว่าแนวทางต่างๆ เป็นอย่างไร
แม้วันที่ 1 ธันวาคมนี้จะเปิดร้านได้ ผู้ประกอบการร้านบุตรดา บาร์ ก็อาจเลื่อนไปเปิดช่วงปลายเดือนธันวาคมเลย เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน เนื่องจากกลัวเรื่องการแพร่ระบาด หากติดเชื้อขึ้นมาก็ต้องหยุด 14 วันอีก เพราะตอนนี้ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนสำหรับการขายเหล้า-เบียร์ สำหรับสถานบันเทิง การที่จะให้เป็นที่โล่ง อากาศถ่ายเท เว้นระยะห่าง ยังเป็นมาตรการที่ย้อนแย้ง เพราะข้อเท็จจริงผับบาร์หลายแห่ง มีขนาดเป็นเพียงตึกแถว การจะเว้นระยะห่างย่อมทำได้ยาก หรือให้กั้นฉากป้องกันโควิดในพื้นที่การเต้นรำ ก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลควรมีนโยบายที่ชัดเจน เช่น ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ตรวจ ATK แล้ว เป็นต้น เพื่อให้อยู่กับโรคโควิด-19 ให้ได้อย่างเข้าใจ และปลอดภัยที่สุด