ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้แจ้งความคืบหน้ากรณีที่ลูกค้าถูกตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต โดยเกิดจากมิจฉาชีพสุ่มข้อมูลบัตรและนำไปสวมรอยทำธุรกรรม โดยวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ธนาคาร คืนเงินแก่ลูกค้า "บัตรเดบิต" ที่เสียบหายครบแล้ว
ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ชี้แจ้งความคืบหน้ากรณี ที่ลูกค้าถูกตัดเงินที่ผิดปกติผ่าน "บัตรเครดิต" และ "บัตรเดบิต"โดยเกิดจากมิจฉาชีพสุ่มข้อมูลบัตรและนำไปสวมรอย
ทำธุรกรรม โดยพบว่าระหว่างวันที่ 1 – 17 ต.ค. 2564 มีบัตรของธนาคารจำนวน 10,700 ใบ ถูกนำไปทำธุรกรรมลักษณะดังกล่าว มูลค่ารวมประมาณ 130 ล้านบาท
ล่าสุดได้ดำเนินการ 2 ส่วน คือ 1.โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา ธนาคารได้คืนเงินให้แก่ลูกค้า "บัตรเดบิต" ที่ได้รับความเสียหายในกรณีข้างต้นครบทุกรายแล้ว
ในส่วนของ "บัตรเครดิต" ได้ดำเนินการตั้งพัก เร่งตรวจสอบ และยกเลิกรายการ โดยลูกค้าไม่ต้องชำระเงินตามยอดเรียกเก็บที่ผิดปกติและไม่มีการคิดดอกเบี้ย
ข้อ 2 ธนาคารได้ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนเรียบร้อยแล้ว ได้แก่
(1) ตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ ให้ครอบคลุมธุรกรรมที่มีจำนวนเงินต่ำและที่มีความถี่สูง
(2) ติดตามเฝ้าระวังรายการธุรกรรมจากต่างประเทศเป็นพิเศษ
(3) แจ้งเตือนลูกค้าในการทำธุรกรรมทุกรายการตั้งแต่รายการแรก
และ (4) ประชาสัมพันธ์วิธีการป้องกันความเสี่ยง เช่น การปรับวงเงินในบัตรให้เหมาะสมกับการใช้จ่าย หลีกเลี่ยงการผูกบัตรกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่ไม่น่าไว้ใจ
ทำให้ปริมาณธุรกรรมผิดปกติในลักษณะดังกล่าวลดลงมาก โดยธนาคารจะติดต่อสอบถามลูกค้าเพิ่มเติมกรณีพบรายการต้องสงสัย หากพบความเสียหายเพิ่มเติมจากกรณีข้างต้น ลูกค้าบัตรเดบิตจะได้รับการคืนเงินภายใน 5 วันทำการ