หุ้นไทยวันนี้ (28 ต.ค.64) ปิดการซื้อขาย -3.30 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทยวันนี้ (28 ต.ค.64) ปิดการซื้อขาย -3.30 จุด ระดับ 1,624.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 74,096.00 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

เปิดประเทศ 1 พ.ย. ตร.เผยเข้าไทยแน่ 11 ประเทศแรก สั่งปราบขบวนการลักลอบเข้าเมือง

สธ.โชว์ฉากทัศน์ คาดการณ์สถานการณ์โควิด-19 หลังเปิดประเทศ 1 พ.ย.64

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,460.01 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท ลดลง 0.50 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,820.81 ล้านบาท ปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,218.08 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,055.66 ล้านบาท ปิดที่ 118.50 บาท ลดลง 3.00 บาท

CBG มูลค่าการซื้อขาย 1,981.66 ล้านบาท ปิดที่ 124.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง ในช่วงรอผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก ซึ่งวันนี้หุ้นที่กดดันตลาดฯมาจากกลุ่มพลังงานที่ปรับลงตามราคาน้ำมัน และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ก็พักฐานหลังจากที่ DELTA ประกาศงบฯไตรมาส 3/64 ออกมาไม่ดี ขณะที่หุ้นกลุ่ม Defensive ฟื้นตัวได้ดี อย่างกลุ่มสื่อสาร และ โรงพยาบาล ภาพตลาดโดยรวมจึงเป็นลักษณะการแกว่งตัว

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ทรงตัว ในช่วงรอดูผลประชุม ECB และยังต้องจับตาความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯด้วย

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบ 1,620-1,630 จุด

หุ้นไทยวันนี้ (28 ต.ค.64)  ปิดการซื้อขายเช้า +1.42 จุด ที่ระดับ 1,629.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,119.49 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

เช็กสิทธิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน กรมบัญชีกลาง จ่ายเงินเข้าบัตรพ.ย. – ธ.ค. 64

ไฟเขียวบริษัทยาทั่วโลกผลิต "ยาโมลนูพิราเวียร์" ได้

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,837.08 ล้านบาท ปิดที่ 11.20 บาท ลดลง 0.40 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,695.85 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,339.10 ล้านบาท ปิดที่ 138.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,293.23 ล้านบาท ปิดที่ 118.50 บาท ลดลง 3.00 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,074.43 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท ลดลง 1.25 บาท

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวน โดยดัชนีฯเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ แต่ก็ยังดูดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะปรับตัวลงในทางเดียว โดยตลาดบ้านเราได้รัแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ลงตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง อย่างไรก็ดียังมีแรงซื้อกลับในกลุ่ม Defensive อย่างหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้กีแรงซื้อเข้ามาด้วย อย่างหุ้น AOT, CPALL เป็นต้น ทำให้ตลาดฯแกว่งแคบ

ทั้งนี้ แรงกดดันจากปัจจัยนอกประเทศนอกเหนือจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแล้ว ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจีน และสหรัฐฯ ที่เริ่มกลับมาขัดแย้งกันอีกครั้ง หลังจากคณะกรรมการด้านการสื่อสารของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FCC) มีมติเพิกถอนใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจของบริษัทไชน่า เทเลคอมในสหรัฐแล้ว เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ สร้างความไม่พอใจให้กับจีน อีกทั้ง GDP งวดไตรมาส 3/64 ในหลายประเทศก็ออกมาเติบโตน้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/64

อย่างไรก็ดี ระยะกลางตลาดฯยังมีปัจจัยบวกจากองค์การสิทธิบัตรยา (MPP) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้บรรลุข้อตกลงด้านสิทธิบัตรยากับบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค และบริษัทริดจ์แบ็ค ไบโอเทราพิวติกส์ โดยบริษัททั้งสองจะอนุญาตให้บริษัทยาทั่วโลกผลิตยาโมลนูพิราเวียร์เพื่อให้ประเทศยากจนสามารถเข้าถึงยาได้ พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวไปได้ไม่ไกล โดยมีแนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635 จุด

หุ้นไทยวันนี้ (28 ต.ค.64)  คาดว่าจะแกว่ง Sideway Down พร้อมกลยุทธ์ลงทุน แรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่อาจจะปรับตัวลงตามราคาพลังงานในตลาดโลก อีกทั้งยังต้องติดตามดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway Down ในลักษณะซึมลงจากวอลุ่มเทรดที่หดหายไป และนักลงทุนต่างชาติเริ่มขาย โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่อาจจะปรับตัวลงตามราคาพลังงานในตลาดโลก อีกทั้งยังต้องติดตามดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้

ราคาทองวันนี้ – 28 ต.ค. 64 เปิดตลาด บวก 150 บาท รูปพรรณบาทละ 28,850

"ประยุทธ์" ฉีดวัคซีนเข็ม 3 บูสเตอร์โดส ฉีดไฟเซอร์ เตรียมบินสกอตแลนด์

อุตุฯ เตือน 40 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก

รวมถึงสัปดาห์หน้าก็ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่คาดว่าจะมีการประกาศการปรับลด QE ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็จะทำให้ค่าเงินผันผวนได้ ทุกคนจึง Wait & See ก่อนดีกว่า

อย่างไรก็ดี นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวได้ จากประเด็นเฉพาะตัว อาจเป็นผลประกอบการจะดีหรือออกมาดี ซึ่งก็จะช่วยหนุนให้หุ้นปรับตัวขึ้นได้ แต่ภาพรวมตลาดคงจะเป็นลักษณะทรงตัวหรืออ่อนตัวลง เพราะได้มีการพบไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่เริ่มเข้าในสหรัฐฯแล้ว ทำให้คนเริ่มกลัวและเป็นความเสี่ยงได้ ซึ่งหุ้นกลุ่มเปิดประเทศที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้ก็อาจจะทรงตัวรอดูสถานการณ์ก่อน

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ทรงตัว พร้อมให้แนวรับ 1,620-1,606 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,640 จุด

บล.ไทยพาณิชย์ขอนำส่งบทวิเคราะห์   ปรับลงต่อและฟื้นจำกัด ติดตามประชุมธนาคารกลาง
 
กลยุทธ์การลงทุน:
คาด SET มีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ โดยมีปัจจัยกดดันจาก 1) สัญญาณเทคนิคเป็นลบหลังหลุด 1630 จุด 2) ราคาน้ำมันอ่อนตัว กดดันกลุ่มพลังงานต่อ และ 3) ประชุมธนาคารกลางต่างๆ ที่ล้วนมีการส่งสัญญาณไปในทางลดนโยบายผ่อนคลายการเงิน ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1623 และ 1616 จุด ตามลำดับ ส่วนการฟื้นตัวจำกัดที่ 1635-1645 จุด กลยุทธ์การลงทุนใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง

ล็อคเป้าลงทุน:

> คาดตลาดพักตัวช่วงสั้นจากภาพรวมเศรษฐกิจซบเซาและแนวโน้มงบ 3Q64 ไม่ดีนัก เน้นหุ้น domestic play ในพอร์ตหลักที่เป็นหุ้นปลอดภัย ปัจจัยพื้นฐานและกำไรยังมี momentum ที่ดี

> พอร์ตหลัก 1) หุ้นโรงไฟฟ้าที่คาดกำไร 3Q64 เติบโตดีทั้ง YoY, QoQ และได้อานิสงส์จากบาทแข็งค่า เลือก GPSC BGRIM 2) หุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานดี ราคาหุ้นยัง laggard เลือก BDMS 3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก bond yield ขยับขึ้น เลือก BLA

> พอร์ตเทรดดิ้ง เลือก GLOBAL มอง Downside จำกัด กำไรฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์ ได้อานิสงส์มาตรการกระตุ้นของรัฐ

> Conviction Call แนะนำ GPSC คาดกําไรปกติ 2H64 เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า IPP และ SPP ดําเนินงานตามปกติ และโรงไฟฟ้าพลังนํ้าเข้าสู่ช่วงฤดูกาล และยังคงแนะนำ BGRIM คาดกำไร 3Q64 โต YoY, QoQ เตรียมปิดดีล M&A โรงไฟฟ้าเพิ่มเติมปลายปีนี้

สถานการณ์อื่นๆ 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,490.69 จุด ลดลง 266.19 จุด (-0.74%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,551.68 จุด ลดลง 23.11 จุด (-0.51%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,235.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.12 จุด ( 0.00%)

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.61 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 226.63 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 19.68 จุด

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ต.ค.) ปิดที่ระดับ 82.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.99 ดอลลาร์ หรือ 2.4%

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ต.ค.) อยู่ที่ 8.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

เงินบาทเปิด 33.32 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดจับตาผลประชุม BOJ-ECB-ตัวเลข GDP สหรัฐฯ

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ