หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
สธ.ของบฯ ซื้อโมลนูพิราเวียร์ ครม. 3 พ.ย.นี้
สมาคมผู้เลี้ยงไก่พันธุ์ วอนรัฐช่วย หลังแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบที่ขึ้นไม่หยุด
SCB มูลค่าการซื้อขาย 7,720.07 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,216.82 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,596.47 ล้านบาท ปิดที่ 89.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,317.38 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,923.66 ล้านบาท ปิดที่ 393.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างวันก็มีทั้งบวกและลบสลับกัน วอลุ่มการซื้อขายยังคงเบาบาง ซึ่งคล้ายกันกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่วันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ไร้ทิศทาง
อย่างไรก็ตามตลาดฯ ก็มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นรายตัว ทั้งธนาคารพาณิชย์, พลังงาน, อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่ได้กระจุกอยู่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ รวมถึงมีการเก็งกำไรเข้ามา หลังใกล้วันประชุมโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ซึ่งตลาดฯก็คาดการณ์ว่า โอเปกพลัสจะยังคงมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วัน และเริ่มเห็นราคาน้ำมันที่ขยับตัวขึ้น ส่งผลดีต่อ PTTEP
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ย.64) นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบต่อ ให้แนวรับ 1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด
หุ้นไทยวันนี้ (2 พ.ย.64) เปิดการซื้อขายแดนบวก คาดปรับตัวลงต่อ จากนักลงทุนยังคงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดปรับตัวลงต่อ จากนักลงทุนยังคงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ในไตรมาส 3/64 ที่ทยอยประกาศออกมา อีกทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยังได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) ปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้นร้อนแรง ตั้งแต่วันที่ 1-12 พ.ย.นี้ จึงส่งผลต่อการลงทุนในระยะสั้น
ราคาทองวันนี้ – 2 พ.ย. 64 ปรับราคา 3 ครั้ง รูปพรรณบาทละ 28,750
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติทยอยบินเข้าไทย ททท.ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยยังรอจุดเปลี่ยน โดยเฉพาะเรื่องของความชัดเจนของการเปิดประเทศว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างไร จะมีมาตรการอื่นออกมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เช่น ช้อปดีมีคืน เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยปลายปี ตลอดจนมาตรการคนละครึ่งเฟสใหม่ในปีหน้า เป็นต้น
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน
พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,607 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,630 จุด
ด้าน บล.ไทยพาณิชย์ ฟื้นตัวจำกัด และมี downside ติดตามประชุมเฟด
กลยุทธ์การลงทุน:
คาด SET การฟื้นตัวจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1632 และ 1640 จุด ตามลำดับ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ และในภาพรวมยังมี downside หลังกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เผชิญแรงขายทำกำไรกดดันตลาด ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1619 และ 1612 จุด ตามลำดับ ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้ ติดตามประชุมเฟดที่คาดจะมีการประกาศลด QE กลยุทธ์การลงทุนใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
ล็อคเป้าลงทุน:
> ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งในกรอบ ตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แนวโน้มผลประกอบการ 3Q64 สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
> พอร์ตหลัก 1) หุ้น Defensive ที่ราคาหุ้นยัง laggard เลือก ADVANC BEM BGRIM GPSC 2) หุ้นที่คาดกำไร 3Q64 ดีทั้ง YoY, QoQ เลือก BDMS RJH
> พอร์ตเทรดดิ้ง เก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานเมื่อย่อตัวจากประชุม OPEC+ และการเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน เลือก PTTEP
> Conviction Call แนะนำลงทุน GPSC เตรียมขยายโครงการพลังงานหมุนเวียนในไต้หวัน เลี่ยงการลงทุน/short หุ้นเดินเรือจากค่าระวางเรือที่ปรับลงต่อเนื่อง PSL TTA
สถานการณ์อื่นๆ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,913.84 จุด เพิ่มขึ้น 94.28 จุด หรือ +0.26%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,613.67 จุด เพิ่มขึ้น 8.29 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,595.92 จุด เพิ่มขึ้น 97.53 จุด หรือ +0.63%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 184.68 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 454.69 จุด และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.10 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 พ.ย.) ปิดที่ระดับ 84.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.6%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 พ.ย.) อยู่ที่ 8.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 33.27 แข็งค่าจากวานนี้หลังดอลลาร์อ่อน ให้กรอบวันนี้ 33.20-33.40