หุ้นไทย (29 พ.ย.64) วิตกโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนปิดร่วง -20.92 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทย (29 พ.ย.64) วิตกโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนปิดร่วง -20.92 จุด หุ้นเอเชียร่วงยกแผงเช่นกัน

ทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

"โอไมครอน" ยังไม่เจอในไทย ยืนยัน RT-PCR และ ATK ยังตรวจได้

ออมสิน เปิดลงทะเบียน “สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ” กู้วงเงินสูงสุด 3 แสนบาท เผยคุณสมบัติผู้ขอ

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 8,665.46 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 6.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 5,895.15 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 3.25 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,719.40 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,771.91 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,674.28 ล้านบาท ปิดที่ 117.00 บาท ลดลง 4.50 บาท

นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงรับ Sentiment ลบต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน จากความกังวลไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่"โอไมครอน"ทำให้เห็นว่ามีการ Cutloss ตลาดอนุพันธ์ ซึ่งทำให้หุ้นในกลุ่ม SET50 ปรับตัวลงมากเป็นหลักจาก Panic Sell ปรับพอร์ต โดยเฉพาะหุ้นที่ขึ้นไปมากอย่างหุ้นในกลุ่ม Re-opening

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์หากดัชนีฯยืนได้ก็มีโอกาสรีบาวด์ หลังจากลงมาใกล้เส้น 200 วันแถว 1,580 จุด หรือในช่วง 1,580-1,590 จุด น่าจะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ ขณะที่ตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้รีบาวด์ขึ้นมาแล้ว หากคืนนี้ตลาดสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้ก็จะทำให้ Sentiment ตลาดเอเชียในวันพรุ่งนี้ฟื้นตัวกลับมาได้ ทั้งนี้ ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่"โอไมครอน"ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มมาก แต่หลายฝ่ายระบุว่าไม่ได้รุนแรงมากกว่าตัวเดิม หากเป็นจริงก็จะเป็น Sentiment บวกให้ตลาดฯ

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) นายสุโชติ กล่าวว่า หากดัชนีฯยืนได้แถว 1,690-1,580 จุด ก็มีโอกาสเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,600-1,620 จุด

พร้อมให้ติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าของสายพันธุ์"โอไมครอน" และการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีผลต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อีกทั้งติดตามภาครัฐฯจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีนี้หรือไม่

"ตอนนี้พวกเฮจฟันด์ในตลาดฟิวเจอร์สมีมุมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปราว ส.ค.-ก.ย.65 จากเดิมที่มองกันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า ตอนนี้พอมีโควิดสายพันธุ์ใหม่ก็ทำให้มองว่าอาจไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วแล้ว"นายสุโชติ กล่าว

ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียร่วงยกแผงเช่นกัน 

ดัชนีนิกเกอิ ปิดตลาดที่ระดับ 28,283.92 จุด ลดลง 467.70 จุด หรือ -1.63% ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำที่สุดตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,562.70 จุด ลดลง 1.39 จุด หรือ -0.039%  ปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเทียว 

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลงในวันนี้ แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ 23,852.24 จุด ลดลง 228.28 จุด หรือ -0.95%

ขณะที่ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,600.24 จุด ลดลง 10.37 จุด (-0.64%) มูลค่าการซื้อขายราว 64,356 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,095.74 ล้านบาท ปิดที่ 138.50 บาท ลดลง 4.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,179.23 ล้านบาท ปิดที่ 60.25 บาท ลดลง 2.75 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,050.89 ล้านบาท ปิดที่ 125.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,883.75 ล้านบาท ปิดที่ 438.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท

JMART มูลค่าการซื้อขาย 1,807.40 ล้านบาท ปิดที่ 53.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท

บล.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุน คาด SET เกิดการปรับฐานแล้ว หลังปรับลงแรงตั้งแต่ศุกร์ที่แล้ว (26 พ.ย.64) ด้วยปัจจัยลบกังวลการระบาดของโควิด-19 สายกลายพันธุ์ชื่อ โอไมครอน และมองเป็นปัจจัยกดดันต่อหลังการระบาดเริ่มลุกลามในหลายพื้นที่

ราคาทองวันนี้ – 29 พ.ย. 64 ปรับราคา 6 ครั้ง รูปพรรณบาทละ 29,200

“หมอยง” สรุป 10 ประเด็น โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอน (Omicron)

ด้าน SET มีแนวรับถัดไปที่ 1590 และ 1575 จุด ตามลำดับ ส่วนการฟื้นตัวคาดถูกจำกัดที่บริเวณ 1623-1633 จุด กลยุทธ์ ขายลดพอร์ตหรือหลีกเลี่ยง กลุ่ม Global play และกลุ่ม Reopening ในกลุ่มท่องเที่ยว ส่วนการเข้าตลาด ยังใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง

ล็อคเป้าลงทุน:

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำขายออกไปก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์ Omicron ซึ่งล่าสุดเริ่มกระจายไปในหลายประเทศ ทำให้หลายประเทศออกมาตรการห้ามการเดินทางจากหลายชาติในทวีปแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะ

1) หุ้น Global และ Domestic Reopen อาทิ MINT ERW CENTEL AOT AAV BA TU BEM BTS BTSGIF และ 2) หุ้นที่ราคาปรับขึ้นมาแรงกว่า Pre-COVID มากแล้ว อาทิ COM7 SYNEX CPW ICHI DOHOME

Weekly Theme : เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากความกังวลสถานการณ์แพร่ระบาดของ Omicron แนะนำ STGT STA XO BCH CHG ระยะสั้นยังแนะนำหลีกเลี่ยง/ขายทำกำไร

สำหรับ 1) หุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมี คาดตลาดเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันโลก และ 2) หุ้น Mid-Small Cap. มีโอกาสอุปสงค์ได้รับผลกระทบหากมีมาตรการล็อกดาวน์ในไทยครั้งใหม่ ZEN HTC SNNP KISS SFT

ด้านนายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด หลุดแนว 1,600 จุด ซึ่งตลาดบ้านเราปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้า จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่"โอไมครอน" ทำให้สถานการณ์มีความไม่แน่นอน เนื่องจากยังมีข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่นี้ไม่มากนัก

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงมาก ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดฯในเช้านี้ด้วย และยังเผชิญแรงกดดันจากหุ้น AOT และหุ้นในกลุ่มแบงก์ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610-1,615 จุด

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ