เมื่อตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน มิ.ย.2565 เปิดออกมาพุ่งแตะระดับ 9.1% สูงสุดในรอบ 40 ปี คนอเมริกันหลายคนตรงไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อกักตุนสินค้า ซึ่งต้องควักเงินจ่ายมากขึ้นกว่าเดิม
เงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง 9.1% มากสุดรอบ 40 ปีครึ่ง เฟดขึ้นดอกเบี้ยแน่ 0.75%
วิกฤตศรีลังกา บทเรียนรัฐบาลผิดพลาด ฉุด“เศรษฐกิจพังพินาศ” ผู้นำเผ่นหนี
เป็นผลต่อเนื่องจากมาจากการระบาดโควิด-19 มาเจอสงครามรัสเซียยูเครน กระทบกับซัพลายเชนทั่วโลก ล้วนเป็นปัจจัยผลักดันในอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ทะยานขึ้น
ภาพรวมของสินค้าที่มีราคาแพงขึ้น อย่างราคาพลังงาน เพิ่มขึ้น 60% อาหาร 10.4% และที่อยู่อาศัย 5.6% จากปีก่อนหน้า
สินค้าที่ราคา “เพิ่มขึ้นอันดับแรก” คือ ไข่
ไข่ แพงขึ้นถึง 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.ปี 2564 (+33.1%)
ตามด้วย
เนย เพิ่มขึ้น +21.3%
แป้ง +19.2%
ไก่ +18.6%
นม +16.4%
กาแฟ +15.8%
อาหารเด็ก +14.0%
รถมือสอง รถบรรทุก +7.1%
ผักสด +6.5%
นอกจาก ไข่ แล้วในส่วนของ เนย แป้ง ไก่และนม มีการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งราคาอาหารทั่วไปสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 10.4% โดยราคาร้านค้าเพิ่มขึ้น 12.2%
ขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์นมเป็นหนึ่งในกลุ่มอาหารที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะเงินเฟ้อ โดยรวมแล้วมีราคาแพงขึ้น 13.5% ในช่วงหนึ่งปีผ่านมา ขณะที่ผักสดราคาเพิ่มขึ้น 6.5%
อาหารและพลังงานถือเป็นสินค้าที่มีความผันผวนมากที่สุดกับอัตราเงินเฟ้อ โดยราคาพลังงานเพิ่มขึ้น 41.6% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 24.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลต่อท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รวดเร็วเพื่อสกัดเงินเฟ้อในอนาคต โดยคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค.นี้
แม้ว่าจะยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐถึงจุดสูงสุดแล้วหรือไม่ แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานดูเหมือนจะลดระดับลงแล้ว และความคาดหวังก็จะลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบปีต่อปี Cailin Birch นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลก จาก Economist Intelligence Unit ระบุ