นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่าหลังจากที่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องใช้กลไกจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการอุดหนุนราคา โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีน้ำมัน เริ่มติดลบมาตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังจากที่เป็นบวกมาตลอด
ปูตินทุบหม้อข้าว? เกณฑ์เกษตรกรไปรบ ด้านสหรัฐต้อนรับชาวรัสเซียที่ต้องการลี้ภัย
คาดการณ์ตลาดหุ้นไทย หาก กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50%
โดยสกนช. ประมาณการฐานะกองทุนน้ำเชื้อเพลิง ณ วันที่ 25 กันยายน ติดลบ 124,216 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ 82,674 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 42,542 ล้านบาท โดยมีเงินช่วยเหลือด้านราคาก๊าซจากกลุ่มปตท.เข้ามาเติม 1 พันล้านบาท
นายวิศักดิ์ กล่าวว่า แม้ว่าราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกจะลดลงเรื่อยๆ และมีการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล แต่ สกนช. ยืนยันว่าสัปดาห์นี้จะคงไว้ที่ 35 บาทก่อน แต่หากสัปดาห์หน้าราคาน้ำมันโลกลดลงอีก อาจต้องมีการพิจารณาอีกทีว่าจะปรับลดหรือไม่ เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน หากมีการปรับลดลงจริงก็จะค่อย ๆ ลดในอัตราครั้งละไม่เกิน 50 สตางค์ถึง 1 บาท โดยจะมีการพิจารณาเป็นรายสัปดาห์