รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า หอการค้าไทยมีการยกระดับการประเมินตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วม จาก 5,000-10,000 ล้านบาท เป็น 12,000-20,000 ล้านบาท โดยจังหวัดที่น้ำท่วมมีทั้งหมด 52 จังหวัด เฉลี่ยจังหวัดละ 100 กว่าล้านบาท ซึ่งถือว่ากระทบเศรษฐกิจไม่มาก และกระทบต่อจีดีพีประเทศ 0.1-0.5%
ภารกิจ DART ของนาซา เปลี่ยนวิถีโคจรดาวเคราะห์น้อยสำเร็จ
แบงก์ชาติอังกฤษ จ่อเลิกแทรกแซงพันธบัตร กดเงินปอนด์ร่วง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่น้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้วจะมีกลไกเข้าไปเยียวยาฟื้นฟู หอการค้าไทย จึงมองว่าน้ำท่วมครั้งนี้ผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไม่มากนัก แต่จะกระทบหนักในบางจังหวัดและบางพื้นที่เท่านั้น และยังคงมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ 3.3-3.5%
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตร ดร.ธนวรรธน์ กล่าวว่าไม่น่าจะทำให้ราคาสินค้าในภาพรวมเพิ่มขึ้น ในส่วนของเนื้อสัตว์ยังคงราคาเดิม แต่ในหมวดข้าวหรือพืชไร่อื่นๆ ซึ่งมีสัดส่วนเสียหายมาก อาจกระทบในระยะสั้น เช่น ขนส่งลำบาก บางพื้นที่อาจปรับราคาขึ้นบ้าง แต่ไม่กระทบในระยะยาว
ขณะที่ชาวสวนทุเรียนเครียด สวนพังยับ น้ำท่วมกว่า 2 อาทิตย์ ไร้การช่วยเหลือ อย่างนาง ศุภรา ช้างลำลี อายุ 60 ปี เจ้าของสวนทุเรียน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ เปิดใจว่า ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาแล้วนานกว่า 2 อาทิตย์ ทำให้ต้นทุเรียนและไม้ผลต่างๆที่ปลูกไว้ในสวนเสียหายทั้งหมด มูลค่าหลายแสนบาท ก่อนหน้านี้เคยเอาเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง แต่ปริมาณน้ำค่อนข้างเยอะ เครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกไม่ทันจนจมอยู่ใต้น้ำ เลยต้องปล่อยให้สวนจมน้ำต่อไป ตอนนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานลงมาดูแลหรือให้ความช่วยเหลือ ทั้งๆที่ตนเองเคยลงทะเบียนและมีชื่ออยู่ในบัญชีของเกษตรกร อำเภอบางกรวย ก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำยังไงหรือต้องไปติดต่อประสานงานที่ใคร ตอนนี้ก็หวังว่าระดับน้ำจะลดลงเร็วๆ
เช่นเดียวกับนายสมชาย เจ้าของสวนทุเรียนอีกฝั่ง เล่าว่า เมื่อคืนฝนตก ระดับน้ำก็สูงขึ้นจนท่วมสวนทั้งสวน กลางดึกต้องรีบสูบน้ำระบายออกจากสวน ตอนนี้กลัวว่าต้นทุเรียนที่ปลูกจะยืนต้นตายซะก่อน เพราะลงทุนไปเยอะและยังไม่ได้กำไรจากการทำสวนในครั้งนี้เลย เพราต้นทุเรียนตนเพิ่งจะปลูกได้แค่เพียง 3 ปี เท่านั้น ถ้าต้องเสียทั้งหมดก็หมดเลย ไม่มีทุนเหลือไปซื้อต้นกล้าพันธุ์ทุเรียนแล้ว
