น้ำมันโลกแนวโน้มขาลง พิษโควิด-ประท้วงในจีน กระทบความต้องการใช้พลังงาน

เงินบาทเช้านี้ “อ่อนค่า” จนท.เฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ย ดันดอลลาร์แข็ง จับตาประท้วงจีน

ราคาทองวันนี้ "ลงแรง" 150 บาทในการเปิดตลาดเช้าครั้งแรก

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2565 สถานการณ์น้ำมันโลกเช้านี้ในช่วงตลาดเอเชีย ราคาฟื้นกลับมาเล็กน้อยจากเมื่อวาน (28 พ.ย.) หลังลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบหลายเดือน ซึ่งได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 และการประท้วงที่รุนแรงในจีน ทำให้ตลาดกังวลว่าจะทำให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงลดลง เพราะเป็นจีนผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มกับมาแข็งค่า

ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบทั่วโลกวันนี้

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับเพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์ หรือ +1.29% ล่าสุดอยู่ในระดับ 84.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็สซัส (WTI) ปรับเพิ่มขึ้น  0.85 ดอลลาร์ หรือ +1.10% ล่าสุดอยู่ในระดับ 78.08ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในสัปดาห์ล่าสุดยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยการแพร่ระบาดโควิด-19 ในจีนยังรุนแรง กดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน ล่าสุดประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงมาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมือง เนื่องจากเข้มงวด และใช้เวลายาวนานเกินไป ซึ่งในบางเมืองประชาชนไม่สามารถออกนอกบ้านมานานกว่า 100 วัน

ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกใบอนุญาตให้ Chevron Corp. ผลิตน้ำมันดิบในเวเนซุเอลา เป็นเวลา 6 เดือน โดยยังคงมาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานเวเนฯ แต่ผ่อนผันให้เฉพาะน้ำมันดิบที่ส่งออกมาสู่สหรัฐฯ ทั้งนี้เวเนฯ ผลิตน้ำมันอยู่ที่ระดับ 700,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ก่อนหน้ามาตรการคว่ำบาตร Chevron ผลิตน้ำมันดิบในเวเนฯ ที่ระดับ 200,000 บาร์เรลต่อวัน

 

ขณะเดียวกันจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) วันที่ 13-14 ธ.ค. 65 ซึ่ง นางสาว Mary Daly ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) สาขา San Francisco คาดการณ์ว่า FOMC จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขึ้นอีก 0.75% อยู่ที่ระดับ 4.5-4.75%

 

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

• สหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สามารถหาข้อยุติ มาตรการตั้งเพดานราคา (Price Cap) น้ำมันดิบรัสเซีย ในการประชุมวันที่ 24 พ.ย. 65 และเตรียมหารืออีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากโปแลนด์ เอสโตเนีย และลิทัวเนีย ต้องการตั้งเพดานราคาต่ำกว่า 65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่กรีซ ไซปรัส และมอลตา ต้องการตั้งเพดานราคาสูงกว่า 70/เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยมีความเห็นแตกต่างกันหลายกลุ่ม ทำให้ตลาดคลายความกังวลต่อมาตรการตอบโต้จากรัสเซีย
• กระทรวงพลังงานของอาเซอร์ไบจานรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ต.ค. 65 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 4,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 547,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ภายใต้ข้อตกลง OPEC+ โควตาของอาเซอร์ไบจานอยู่ที่ระดับ 717,000 บาร์เรลต่อวัน

 

 

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

• รมว.กระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย เจ้าชาย Abdulaziz bin Salman ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวจาก Wall Street Journal ซึ่งรายงานว่ากลุ่ม OPEC+ กำลังพิจารณาเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 500,000 บาร์เรลต่อวัน  ในการประชุมครั้งต่อไป (วันที่ 4 ธ.ค. 65) โดยเจ้าชายฯ แถลงว่า OPEC+ ไม่หารือการตัดสินใจใด ๆ ก่อนการประชุม และพร้อมจะเข้าแทรกแซงตลาดอีก หากจำเป็นต้องปรับลดอุปทาน เพื่อให้ตลาดอยู่ในภาวะสมดุล
• Reuters รายงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 แห่งในยูเครนปิดดำเนินการ หลังจากถูกขีปนาวุธโจมตี เมื่อ 23 พ.ย. 65 ทำให้ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 9 เดือน ในเมือง Kyiv และหลายพื้นที่ รวมถึงมอลโดวาประเทศเพื่อนบ้าน