ผศ.ดร.เอกก์ บอกว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะตกต่ำรุนแรง (Economic Recession) ซึ่งปีนี้จะเป็นปีแห่งการรวมพายุวิกฤต แต่..ถ้าพูดในแง่ภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทย กลับมองว่าเป็นปีแห่งโอกาส โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็ก รายย่อย
เศรษฐกิจ ปี 2566 จะเป็นปีที่ยากลำบาก เมื่อมหาอำนาจล้วนอ่อนแอ
อยากใช้ ช้อปดีมีคืน ซื้อ e-book - สินค้า OTOP ทำอย่างไร?
ข้อมูลจากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ฟันธง ว่า เศรษฐกิจไทยเติบโต 5%
เท่ากับเป็นโอกาส “สำคัญ” ของคนที่มองเห็นโอกาส
โดยเฉพาะธุรกิจ 5 อ.
1.ธุรกิจอาหาร
2.ธุรกิจเกี่ยวกับอารมณ์ เช่น บริการ (Hospitality) การดูแลสุขภาพองค์รวม (Wellness) การฟื้นฟูร่างกาย
3.ธุรกิจเกี่ยวกับอายุ การดูแลสุขภาพ การพักฟื้นหลังเกษียณ
4.อะไรดี ในที่นี่หมายถึง ในที่นี่อาจเจอธุรกิจที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่มีคนมองเห็นและหยิบมาต่อยอดธุรกิจจนเกิดมูลค่าทางการตลาด
เพราะฉะนั้น ผศ.ดร.เอกก์ จึงคิดว่าปีนี้คือโอกาสของเอสเอ็มอีไทย เพราะตัวเล็กและคล่องตัวในการปรับเปลี่ยน
ผศ.ดร.เอกก์ ยังแนะนำ 4 "ท" สำหรับธุรกิจหน้าใหม่และรายเล็ก
1.ทำใจ "อะไรที่เคยประสบความสำเร็จมันอาจจะไม่สำเร็จเหมือนเดิม" เพราะฉะนั้นต้องพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อรอรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะการเข้ามาของ AI หรือ Robot การใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมมาให้ชีวิตของดีขึ้นในทุกๆ มิติ แต่ยังมีช่องว่างบางอย่างที่ AI ยังทำได้ไม่ดีเท่าคน คือ ความคิดสร้างสรรค์ และ การสร้างความสัมพันธ์
2.ทำให้หลากหลาย สิ่งสำคัญคือการเพิ่มความเชี่ยวชาญให้หลากหลาย เพราะการรู้เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป หรือการทำธุรกิจเดียวไม่ได้อีกต่อไป มิเช่นนั้นอาจไม่สามารถรับมือหากวันหนึ่งจะถูก Disrupt จึงจำเป็นอย่างยิ่งต้องมี แพลน A B C D เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจให้หลากหลายมากขึ้นจึงเป็นอย่างยิ่ง
3.ทันลูกค้า ข้อมูลจากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย บอกว่า 3 เรื่องสำคัญที่ปีนี้ต้องโฟกัส
- สร้างคุณภาพให้ดีที่สุดมากกว่าคู่แข่ง (high-quality)
- ชอบทดลองอะไรใหม่ๆ และพร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในฐานะผู้ประกอบการต้องทำอะไรใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ
- นิสัยชอบ (Testable) เช็กย้อนกลับ เพื่อดูตั้งแต่กระบวนการผลิตต้นน้ำจนถึงปลายน้ำก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้านั้นๆ
ทั้งหมดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่ม Green tourism ซึ่งเป็นกลุ่มที่พร้อมจ่ายเต็มที่
และเรื่องสุดท้าย เรื่องที่ 4 คือ ทดลองของใหม่ๆ โดยเริ่มจากเล็กๆ เพราะหากยังวางแผน 3-6 เดือน แบบเมื่อก่อนบางครั้ง “ตามไม่ทัน” กระแสที่มันหมุนไปแล้ว
และสุดท้าย คาถาสำหรับลุยธรุกิจปีนี้ซึ่งเป็นโอกาสทอง คือ “ทำอะไรปีนี้ อย่าใส่เงิน ให้ใส่ใจ” ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล” หัวหน้าภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยถอดสูตร | ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจปีกระต่ายดุ | 3 ม.ค.66
ถอดสูตร | เปิดกลเม็ดจับผู้บริโภคให้อยู่หมัด | 4 ม.ค. 66