นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่จีนเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวไทยยังมีข้อจำกัด เนื่องจากมีเที่ยวบินระหว่างประเทศเพียงประมาณ 15 เที่ยว
ต่อสัปดาห์ เทียบกับก่อนโควิดไทยจีนมีเที่ยวบินประมาณ 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ จีนเพิ่งประกาศให้ประชาชนต่ออายุและทำพาสปอร์ตใหม่ได้ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 10 วัน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจยังไม่กลับมามากในช่วงแรก
ค่าแท็กซี่ปรับใหม่ ขนส่งแจ้งต้องจูนมิเตอร์ และนำรถมาตรวจสภาพก่อน
สำนวนดคี "ตู้ห่าว" ถึงมืออัยการสูงสุดแล้ว ฟากเฮียชู ประกาศลั่นไม่ยอมแพ้แม้สู้ถึงฏีกา
โดยคาดว่าจะมีจำนวนอย่างน้อย 3 แสนคนในช่วงไตรมาสแรก แต่ตลอดทั้งปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน ใช้จ่ายเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 6 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป
ส่วนเงื่อนไขที่กำหนดให้นักท่องเที่ยวจีนซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรกษาโควิด-19 นั้น ผู้ว่าการททท. มองว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวของชาวจีน โดยสาเหตุที่ต้องกำหนดเงื่อนไขนี้ เนื่องจากเป็นเงื่อนไขของประเทศต้นทางที่กำหนดว่าพลเมืองที่เดินทางกลับประเทศต้องมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบจึงเดินทางกลับได้
หากนักท่องเที่ยวมีผลตรวจเป็นบวก ใครจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น จึงต้องมีการกำหนดเงื่อนไขทำประกันขึ้นมา หากประเทศต้นทางยกเลิกเงื่อนไขตรวจ RT-PCR ไทยก็จะยกเลิกเงื่อนไขการรับประกันเช่นกัน
ส่วนแผนการขับเคลื่อนปีท่องเที่ยวไทย 2566 นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปี 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 11.8 ล้านคน ขณะที่ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยอยู่ที่ 189 ล้านคน-ครั้ง สูงกว่าเป้าหมาย สะท้อนสัญญาณบวกของการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ททท.จะเดินหน้าพลิกฟื้นท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ ตั้งเป้าภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา 25 ล้านคน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.38 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 80 ของปี 2562
ผู้ว่าการททท. ยอมรับว่าโควิด-19 ทำให้มีแรงงานออกจากระบบไปเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการท่องเที่ยวฟื้นตัวเร็วกว่าที่คิดไว้ ทำให้อาจมีปัญหาในการปรับตัว และจำนวนแรงงานที่ยังไม่กลับมา ซึ่งททท. จะผลักดันการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งในเชิงคุณภาพและความยั่งยืน