น้ำมันดิบยังพุ่งต่อ จีดีพีสหรัฐฯ ดีเกินคาด–เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว หนุนความต้องการ

KBANK ตั้งเป้าปี 66 สินเชื่อโต 5-7% คุมเพดาน NPL ไม่เกิน 3.25%

เงินบาทเปิด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ตัวเลขเศรษฐกิจมะกันออกมาดีกว่าคาด

เมื่อ 27 ม.ค. 2566 สถานการณ์น้ำมันดิบตลาดโลก ราคาพุ่งสูงเกือบ 2% จากเมื่อวานนี้ หลังสหรัฐอเมริกา ประกาศข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ จีดีพี (GDP) ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ รวมถึงยังได้ปัจจัยหนุนจากจีนที่คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ และการะแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เริ่มดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้พลังงาน

ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบทั่วโลกวันนี้

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับขึ้น 0.29 ดอลลาร์ หรือ +.033 % ล่าสุดอยู่ในระดับ 87.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รวม 2 วัน ปรับเพิ่มขึ้นกว่า +1.6 %

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็สซัส (WTI) ปรับขึ้น 0.33 ดอลลาร์ หรือ +0.41 % ล่าสุดอยู่ในระดับ 81.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

เมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจีดีพี ประจำไตรมาส 4 ปี 2565 ขยายตัว 2.9% แม้ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.2% แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตที่ 2.6% โดยปัจจัยหลักมจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงสิ้นปี 65

ขณะเดียวกันตลาดยังคงคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาบ ซึ่งจะลดความเสี่ยงเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย และหนุนความต้องการใช้พลังงานมากขึ้น

ด้านสถานการณ์โควิด-19 ในจีน ล่าสุดผู้ป่วยหนักลดลงราว 72% จากจุดสูงสุดเมื่อต้นเดือน ม.ค. และผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลลดลง 79 จุดสูงสุด  ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวเศรษฐกิจของจีน เป็นผลดีต่อความต้องการใข้น้ำมัน