ถ้าใครที่อ่านด้านบนแล้วเกิด เอ๊ะๆ ทำไมหลายอย่างดูใกล้ตัวกับเราเหลือเกิน แสดงว่าคุณกำลังเข้าข่ายพฤติกรรมกลุ่ม "HENRY" อยู่นะ
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีรายได้สูงมากๆ แต่สุดท้ายสิ้นเดือนมาไม่เคยเหลือเงินเก็บ และยังใช้เดือนชนเดือน
คำว่า HENRY ย่อมาจาก “High Earners, Not Rich Yet” ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ นักวิจัยศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียง NIDA อธิบายว่า คำนี้มีมาจากสังคมอเมริกัน ที่หารายได้ต่อเดือนสูงมากๆ แต่ดันไม่มีเงินเก็บ ไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีอะไรเลย
พูดง่ายๆ คือ “หาเงินเก่งมาก แต่ไม่สามารถจะรวยได้” เนื่องจากยิ่งรายได้เรามากเท่าไร รสนิยมการใช้สิ่งของ การทานหรู การกินอยู่ยิ่งอัพขึ้นไปเรื่อยๆ จนเข้าขั้นเสพติดความสบาย
เมื่อการเสพติดความสบาย ความหรูหรา พฤติกรรมการใช้จ่ายย่อมมือเติบไปด้วย พอนานวันเข้าจึงส่งผลกระทบไปยังค่าใช้จ่าย บ้างก็เกิดหนี้สินล้นพ้นตัว กลับกันสิ่งที่สำคัญอย่างการวางแผนแต่งงาน มีครอบครัว ซื้อบ้าน จึงไม่สามารถทำได้
บางคนอายุประมาณ 27 หาเงินได้เดือนละ 50,000 กว่าบาท จากการทำงานสายไอทีกับธนาคารชั้นนำ แล้วใช้วิธีการเปลี่ยนงานบ่อยๆ อัพค่าตัว อัพเงินเดือน แต่ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน อาศัยอยู่กับพ่อแม่
ประกอบกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต กินหรู ของแบรนด์เนมหัวจรดเท้า และยังเป็นสายเปย์อีกต่างหาก จึงใช้เงินแบบไม่ได้คิด แบบนี้เข้าข่าย HENRY แบบเต็มๆ ถือว่าโชคดีที่หาเงินได้เยอะ แต่กลับไม่เคยใช้เงินเหล่านั้นมาสั่งสมความมั่งคั่งให้ตนเอง
ดร.อัจฉรา อธิบายต่อว่า เรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญนะ แต่ไม่ใช้เรื่องยาก คำว่า “รวย” ของในทางการเงินมันก็ง่ายมากๆ คือ มีสินทรัพย์ มากกว่าหนี้สิน หากเรามีบ้าน แม้ว่าบ้านจะติดธนาคารต้องผ่อนจ่ายอยู่ แต่มูลค่าบ้านมากกว่าหนี้ในธนาคาร แบบนี้ก็ถือว่ารวยแล้ว
ดังนั้นต้องมาดูว่าเรามีสินทรัพย์อะไรบ้าง จากนั้นลบออกด้วยหนี้สิน และดูว่าเรามีสินทรัพย์อะไรบ้าง นั่นคือความมั่งคั่ง หรือความรวยของเรานั่นเอง คำว่ารวยในทางการเงินวัดง่ายมากๆ
ทำไมกลุ่ม “HENRY” ถึงไม่รวย
เหตุที่ผู้คนรายได้สูง แต่มีพฤติกรรม HENRY จึงไม่รวย มาจากปัญหาว่า หาได้ใช้หมด หาได้เท่าไหร่ก็ใช้หมด หรือเรียกว่า Working Rich ทำงานถึงจะรวย ทำงานถึงจะมีเงินใช้ เมื่อใดที่หยุดทำงานเขาจะไม่มีเงินใช้ในทันที เพราะไม่เคยจัดการกับรายได้สูงสุดที่มี
อยากมีเงินเก็บ อยากมีความมั่งคั่ง ทำอย่างไร
สำหรับวิธีการสร้างความร่ำรวยของยุคปัจจุบัน อาจารย์รัก (ดร.อัจฉรา) ย้ำว่า เครื่องมือเยอะมาก ตอนนี้ถือว่าได้เปรียบ แล้วสนุกด้วย เพียงแค่ต้องเริ่มทำให้เป็นอัตโนมัติ กลุ่มคนที่ใช้จ่ายเก่ง ใช้จ่ายเกิดตัว ต้องหาวิธีบังคับใจตนเองให้ได้ก่อน ขอให้จำแม่นๆ ว่า “ออมให้พอ แล้วใช้ให้เรียบ” เราจะสามารถใช้เงินอย่างสนุกมือได้เลย แค่เราต้องออมก่อน หากทำด้วยตัวเองไม่ได้ก็ใช้วิธีบังคับตัวเอง เช่น DCA (ตัดบัญชีเฉลี่ยจ่ายทุกเดือน) ในหุ้น ในกองทุนรวม ทุกวันนี้มีแอปพลิเคชันการเงินสนุกๆ เยอะมาก
แต่การใช้แอปพลิเคชันใดก็ตามไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการเงินของเรา แค่เริ่มต้นให้เรามีความมั่นคงทางการเงิน สุดท้ายแล้วก็คงต้องให้ทุกคนทบทวนตัวเอง ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า 20 ปีข้างหน้า เราจะไปอยู่ตรงไหน ถ้าวันนี้เรายังใช้เงินแบบนี้ หลังเกษียณ 300 เดือน เราจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ จะอยู่อย่างไร
อย่างแรกให้ถามตัวเองก่อนว่า อยากเกษียณตอนไหน เช่น เกษียณตอนอายุ 55 ปี / 60 ปี แล้วคิดว่าหลังจากนั้นตัวเองจะมีอายุถึงเท่าไหร่ 75 ปี / 80 ปี พอเราได้คำตอบแล้วก็ลองนับดูว่าต้องการเกษียณอายุตอนไหน เช่น 60 แล้วเราคิดว่าจะใช้ชีวิตอยู่ถึงอายุ 80 = ระยะเวลา 20 ปี ใช้ชีวิตหลังเกษียณ
ถัดมาคือตอนเกษียณอยากใช้เงินเดือนละเท่าไหร่ กินอยู่ ใช้จ่าย ค่าน้ำค่าไฟ พื้นฐาน (ยังไม่ต้องรวมเงินเฟ้อใดๆ) เอาแค่ 10,000 บาท/เดือน แม้หลายคนจะบอกว่าไม่พอก็ตาม แล้วเอา 10,000 × จำนวนเดือนหลังเกษียณ (20 ปี = 240 เดือน) = 2,400,000 บาท
เพียงเท่านี้เราก็ได้คำตอบแล้วว่าต้องหาเงินเท่าไหร่ และเรามีเวลาทำงานหาเงินอีกแค่ไหนกันนะ... วันนี้คุณลุกขึ้นมาเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง
