นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน ทั้งมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น (แต่ยังติดลบ 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน) โดยสอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้น
ส่งออกไทยปี 2566 ไม่สดใส คาดติดลบ 1.2% จากเศรษฐกิจโลกชะลอ
ส่งออกก.พ.ร่วง 4.74% ติดลบเดือนที่ 2 ขาดดุลการค้า 1.1 พันล้านดอลลาร์
ด้านเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมวดสินค้าคงทน
ส่วนภาคบริการปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางและรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (3.79%) และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (1.93%) ลดลงจากผลของฐานสูงในปีก่อน รวมถึงราคาผัก และผลไม้ที่ลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ด้านตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้าเป็นสำคัญแต่อย่างไรก็ตาม
แม้ว่าแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยเดือน มี.ค.2566 และระยะต่อไป จะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ในระยะต่อไปยังต้องติดตาม 3 ปัจจัยคือ
1.แนวโน้มเศรษฐกิจและปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรป
2.ผลของการเปิดประเทศ และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน
3.การส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจเพิ่มขึ้น และผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
