รายงานข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.ได้ศึกษา แนวโน้มราคาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดถัดไปเดือน ก.ย.-ธ.ค.2566 หากบริษัท สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยได้เพิ่มขึ้นตามแผน จะทำให้อัตราค่าเอฟทีลดลงได้มากกว่าโดยอาจลดลงได้ถึง 50 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากราคาก๊าซในอ่าวไทยมีราคาถูกกว่าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) นำเข้า 2-3 เท่าตัว ซึ่งสามารถนำมาลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าได้มาก
ทาง กกพ. ให้ข้อมูลว่า
- ราคาแอลเอ็นจีเฉลี่ยอยู่ที่ 14 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู จะลดค่าเอฟทีได้ 30 สตางค์ต่อหน่วย
- ราคาแอลเอ็นจีเฉลี่ยอยู่ที่ 15 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู จะลดค่าเอฟทีได้ 26 สตางค์ต่อหน่วย
- ราคาแอลเอ็นจีเฉลี่ย 16 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู จะลดค่าเอฟที ได้ 23 สตางค์ต่อหน่วย
ยังไม่เคาะ ลดค่าไฟช่วย ปปช. กกต.ขอเอกสารเพิ่ม พิจารณาอีกครั้ง 15 พ.ค.
“ออมสิน” ปล่อยสินเชื่อติดตั้งโซลาร์เซลล์ ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.99% ช่วง 3 เดือนแรก
คนสนใจสินเชื่อโซลาร์เซลล์
นอกจากนั้น ปัญหาค่าไฟแพงทำให้ประชาชนสนใจติดตั้งโซลาร์เซลล์เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยในงานมหกรรมทางการเงิน หรือ มันนี่เอ็กซ์โปร ที่เมืองทองธานี มีประชาชนเข้าไปสอบถามรายละเอียดของการขอสินเชื่อติดตั้งโซลาร์เซลล์จากแบงก์ต่าง ๆ ที่มาออกบูธภายในงาน ซึ่งบางคนบอกว่าจะนำเงินค่าไฟฟ้ามาผ่อนเงินกู้โซลาร์เซลล์แทน และเชื่อว่าในระยะยาวจะคุ้มค่า
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อเพื่อนำไปติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าและสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนในระยะยาว คิดดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุด 1.99% ผ่อนต่ำแสนละ 199 บาทตลอด 3 เดือนแรก ซึ่งมีประชาชนสนใจเข้ามาขอสินเชื่อต่อเนื่อง ซึ่งสินเชื่อตัวนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ สินเชื่อ Go Green หรือ สินเชื่อเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อตัวนี้ไว้ 30,000-40,000 ล้านบาท ในปีนี้
นอกจากนี้ ยังมีธนาคารพาณิชย์อีกหลายธนาคารที่ออกสินเชื่อติดโซลาร์เซลล์ ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อกับธนาคารพาณิชย์ได้โดยตรง โดยขอให้ศึกษารายละเอียดการติดโซลาร์เซลล์ให้ดี ว่าจะลดค่าไฟ คุ้มจริงหรือไม่