นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (30 พฤษภาคม 2566) เป็นการรับทราบมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ํามันแห่งชาติครั้งที่ 1/2566
มีมติเห็นชอบดำเนินโครงการผลักดันการส่งออกน้ํามันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2566 และโครงการประกันรายได้ เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ํามัน ปี 2565-2566
จากการคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ํามันดิบที่ผลิตอาจได้มากกว่าความต้องการใช้ในแต่ละเดือน เนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของราคาและกระทบต่อรายได้ โดยมีโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ํามัน ปี 2565-2566
เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ํามัน และบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาผลผลิตตกต่ำ ในกรณีที่ราคาขายปาล์มน้ํามัน ในประเทศตกต่ำผ่านการประกันราคาปาล์มน้ํามัน (ผลปาล์มทะลาย อัตราน้ํามันร้อยละ18) ราคา กก. ละ 4 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และต้องเป็นพื้นที่ปลูกต้นปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว โดยจะจ่ายเงินชดเชย ส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอ้างอิงให้แก่เกษตรกร ทุก 30 วัน
ซึ่งส่วนนี้ใช้ งบประมาณและแหล่งงบประมาณ 3,133.17 ล้านบาท ระยะเวลาดําเนินการ ระยะเวลาการจ่ายเงิน เดือน กันยายน 2565 - สิงหาคม 2566 โดยระยะเวลาโครงการ เดือน กันยายน 2565 - ธ.ก.ส. ได้รับการชดเชยงบฯ ตามที่ทดรองจ่าย
ส่งออกยังหดตัวต่อเนื่อง เดือน เม.ย.ลดลง 7.6% - ไทยขาดดุลการค้า
คลังแจงกทม.เก็บภาษีลดลง จากมาตรการยกเว้นช่วง 3 ปีแรก ชี้ต่อไปเพิ่มแน่
ต่อมาเป็น โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการการส่งออกเฉพาะปาล์มน้ํามันดิบ 150,000 ตัน เช่น ค่าขนส่ง ค่าคลังจัดเก็บ และค่าปรับปรุง โดยมีเงื่อนไขการสนับสนุนค่าบริหารจัดการส่งออก เมื่อระดับสต็อก น้ํามันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่า 300,000 ตัน และราคาน้ํามันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาตลาดโลก เพื่อให้การบริหาร จัดการมีความยืดหยุ่นและทันต่อเหตุการณ์ เห็นควรกําหนดให้ เงื่อนไขระดับสต็อกน้ํามันปาล์มดิบขั้นต่ำไว้ที่ 250,000 ตัน และให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ํามันแห่งชาติ (กนป.) เป็นผู้มีอํานาจในการพิจารณา
ใช้งบประมาณและแหล่งงบประมาณ 309 ล้านบาท ระยะเวลาดําเนินการ ระยะเวลาส่งออก ตั้งแต่ได้รับการอนุมัติ-กันยายน 2566 โดยระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่ได้รับการอนุมัติ-ธันวาคม 2566
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดําเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทําการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ. 2563 รวมถึงพิจารณากรอบวงเงินงบฯ ตามความจําเป็นและเหมาะสม ตาม ม. 28 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ด้วย