เช็กที่นี่หมวดสินค้าไหน "ลดราคาสูงสุด" หลัง พาณิชย์ลุย แสนกว่ารายการ

เผยแพร่ 2 ต.ค. 2566 ,13:26น.

กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับผู้ประกอบการ 288 ราย ลดราคาสินค้า 3 กลุ่ม รวม 151,676 รายการ ลดสูงสุด 87% ตั้งแต่วันนี้ (1 ตุลาคม) จนถึง 31 ธันวาคม 2566

นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการ ว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับผู้ประกอบการ 288 ราย ลดราคาสินค้า 3 กลุ่ม รวม 151,676 รายการ ลดสูงสุด 87% ตั้งแต่วันนี้ (1 ตุลาคม) จนถึง 31 ธันวาคม 2566

ไทยพาณิชย์ ปรับขึ้นดอกเบี้ยฝากสูงสุด 0.30% เงินกู้ 0.25% มีผล 3 ต.ค. 66

ขยายเวลาการให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษ (ฉลองรัช) 10 บาทถึงสิ้นปี

เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ตามหลักความสมดุล คือ ต้องเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย อยู่ได้ทุกคน ทั้งผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค

สำหรับโครงการลดราคาครั้งนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.กลุ่มสินค้า 11,546 รายการ ลดสูงสุด 87%

หมวดอาหาร ลดสูงสุด 87%
หมวดข้าวสาร ลดสูงสุด 50%
หมวดเครื่องดื่ม ลดสูงสุด 58%
หมวดซอสปรุงรส ลดสูงสุด 50%
หมวดของใช้ประจำวัน ลดสูงสุด 69%
หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดสูงสุด 74%
หมวดของตกแต่งบ้านและอุปกรณ์ช่าง ลดสูงสุด 80%
หมวดยา ลดสูงสุด 66%
หมวดเคมีเกษตร ลดสูงสุด 40%
หมวดปุ๋ย ลดสูงสุด 8%
หมวดอาหารสัตว์ ลดสูงสุด 4%

2.กลุ่มบริการ 140,130 รายการ ลดสูงสุด 69%

ศูนย์บริการรถยนต์ ลดสูงสุด 50%
บริการทางการแพทย์ ลดสูงสุด 20%
ขนส่ง ลดสูงสุด 69%

3.กลุ่มค้าออนไลน์ ลดสูงสุด 80%

สั่งอาหาร ลดสูงสุด 60%
E-commerce ลดสูงสุด 80%

โครงการลดราคาสินค้าในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนไปได้ประมาณ 2-3 พันล้านบาท

เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้ประชาขน แบบ Quick Win และช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วงปลายปี และหลังจากนั้นกระทรวงพาณิชย์จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง แต่จะพยายามตรึงราคาสินค้าให้ได้มากที่สุด ภายใต้เงื่อนไขความเป็นจริง สร้างสมดุลให้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างเป็นธรรม ในลักษณะ Win-win ทั้งประชาชนผู้บริโภค เกษตรกร และผู้ประกอบการไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่