บันทึกโลกลึกลับของวูดู ตอนที่ 2


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เหลือเวลาอีก 8 วัน กับการเดินทางในประเทศเล็กๆ ของทวีปแอฟริกาอย่างเบนินจะจบลง หลายคนอาจคิดว่า 8 วันในการเดินทางต่างประเทศคงเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน แต่สำหรับพวกเรานั้น เวลา 8 วันมันช่างแสนสั้นจริงๆ เพราะเรายังเหลือโปรแกรมการถ่ายทำอีกมาก โดยทั้งหมดเราได้ทำการตกลงกับพี่ๆที่ออฟฟิศ (PPTVHD36) ว่าเบนินจะออกอากาศได้ทั้งหมด 4 ตอน ...ถามกลับว่า ช่วงเวลาที่เหลือเท่านี้ ถ้าสมมติว่า เราไม่สามารถถ่ายทำได้ครบ หรือไม่สามารถเก็บเนื้อหาเพื่อนำไปเล่าได้ครบตามที่กำหนดไว้ ผลออกมาจะเป็นอย่างไร?

ตอบได้เลยว่า “ตาย” สถานเดียว!! ทุกอย่างเลยต้องวางแผนรอบครอบ และละเอียดที่สุด ตั้งแต่วันเดินทางที่ต้องใช้ให้คุ้มที่สุด ไม่มีวันไหนไม่ได้ถ่าย (ยกเว้นรอต่อเครื่องบิน) เส้นทางที่ถูกออกแบบไว้ให้เป็นวงกลม นั่นคือ เดินทางยาว แล้วกลับที่เดียว เช่นครั้งนี้ เราเดินทาง 3 ประเทศ แบกเป้กันยาวๆ คราวเดียวเลย 40 วัน กรุงเทพ – ชิลี – เบนิน – ตุรกี – กรุงเทพฯ เพื่อประหยัดงบประมาณ รวมถึงการถ่ายทำที่ถ่ายกันจนหยดสุดท้าย แบบไม่ลืมหูลืมตา ถ่ายอะไรได้ เก็บมาหมด เพราะเรามีโอกาสมาที่นี่แค่ครั้งเดียว 

บันทึกโลกลึกลับของวูดู

เปิดความลับลัทธิบูชาผี ไขปริศนา “วูดู” กับ “ปักหมุดสุดขอบโลก ซีซั่น 5”

ช่วงสัปดาห์แรกของการเดินทาง มันก็สนุกดี  แต่พอเข้าวันท้ายๆนี่สิ...บรรยากาศในกองเลยเป็นเหมือนสงครามย่อมๆ เพราะทุกคนต่างแบกความคาดหวังจากกรุงเทพฯ มาเต็มที่ 

เบนิน วันที่ 3 ของการเดินทาง

หลังจากเราผ่านพิธีกรรมโชว์อิทธิฤทธิ์ในกองฟางไปแล้ว เราย้ายกันมาที่เมือง Grand popo เมืองเล็ก ๆ อยู่ติดกับชายทะเล ทั้งวันผ่านไปด้วยความอึมครึม ฟ้าหม่นๆมาพร้อมเม็ดฝนคอยต้อนรับเราทั้งวัน แผนของเราวันนี้ คือการข้ามไปที่ ยังเกาะเล็กๆที่ชื่อว่าโตโกวิลล์ ในประเทศโตโก เพื่อสัมภาษณ์นักบวชหญิงวูดู และช่วงเย็นเราจะเข้าไปถ่ายทำตลาดเครื่องบูชายัญในกรุงโลเม ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศโตโก

 “โตโกกับเบนินมีความใกล้ชิดกันมาก ทั้งสังคม ผู้คน การเมือง” ช้ากบอกเราระหว่างเดินทางไปพรมแดน

 “แล้วที่ไหนเจริญกว่ากัน” เราถามกลับ

“โตโกเจริญกว่า ทันสมัยกว่า แต่ก็วุ่นวายกว่าโดยเฉพาะในเมือง ถ้าเป็นโซนอุตสาหกรรมก็อันตรายกว่า เบนินเงียบสงบกว่าเยอะ” เพื่อนบอกมา

ที่ช้ากพูดมาก็น่าเชื่ออยู่ เพราะถ้าดูตามแผนที่แล้วจะเป็นเลยว่า 2 ประเทศมีความเชื่อมโยงกันมาก ทั้งเรื่องขนาดของประเทศ และพรมแดนที่เชื่อมกันตั้งแต่เหนือจรดใต้ อีกทั้งเมืองหลวงของทั้งคู่ก็ตั้งอยู่ใกล้กันอีก จึงไม่แปลก ที่คนจาก 2 ประเทศจะเดินทางไปมาหาสู่กันตลอด ...ขับรถมาไม่กี่อึดใจ ก็ถึงพรมแดนแล้ว ช้ากบอกว่า วันนี้เราข้ามไปโตโก ตกเย็นเราก็กลับมานอนที่ Grand popo ได้เหมือนเดิม ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมง

ทุกอย่างดูไม่น่ามีปัญหาอะไร จนกระทั่ง...เราเริ่มเอะใจอะไรบางอย่างได้ระหว่างต่อแถวเพื่อข้ามพรมแดน

“ถ้าเกิดเราเข้าพรมแดนโตโกไป วีซ่าเบนินเราจะขาดไหมวะ เพราะเราออกนอกประเทศเขาแล้ว?” เก่งเริ่มตั้งคำถาม

“เออ ไม่รู้ว่ะ!! ลืมคิดเรื่องนี้เลย” ฝ้ายตอบกลับมมา

“ถามจักร(เป็นชื่อที่เราตั้งให้ช้าก เพื่อให้ง่ายเรา) ดูดิ มันว่าไง” ว่าแล้วฝ้ายก็หันไปถามจักรที่อยู่หน้าพวกเรา

 “ได้สิ!! ไปแป๊ปเดียว เย็นก็มาแล้ว” จักรบอก

“เราว่าไม่ใช่ 2 ประเทศนี้มันจะสนิทกันขนาดข้ามไปมาแบบอียู (สหภาพยุโรป)ได้เลยเหรอ ให้จักรไปถาม ตม. เถอะ” ว่าแล้วจักรก็เดินไปถามเจ้าหน้าที่ให้เราเพื่อความสบายใจ

ระหว่างหาคำตอบ เรา 3 คนจึงเริ่มปรึกษาว่า ถ้าข้ามไม่ได้ เราจะทำยังไง เนื้อหาจะพอกับการออกอากาศหรือไม่ ทุกอย่างจึงต้องกลับมาเริ่มปรึกษาใหม่ ว่าเราจะไปถ่ายอะไร และมันสำคัญแค่ไหนกับรายการของพวกเรา จนผลสรุปออกมาว่า จำเป็นต้องไป ...เมื่อจำเป็นต้องไป ก็ต้องคุยกันต่อ ว่าจะทำไงกับวีซ่าที่ยังไม่รู้ว่าจะออกแล้วกลับมาด้วยวีซ่าเดิมได้ไหม? ไม่กี่อึดใจ จักรก็เดินออกมา

“เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ได้” จักรบอก

“ชิบ....ยละ!!” พวกเราพูดพร้อมกัน

จริงๆ แล้ว ปัญหานี้แก้ง่ายมาก เพียงแค่เรา ทำวีซ่าแบบที่สามารถเข้าออกได้หลายครั้ง หรือที่เรารู้จักกันว่า Multiple VISAs ก็จบ แต่ด้วยความสะเพร่าของพวกเราเองเลยทำให้เกิดปัญหา เราถึงพยายามบอกทุกคนว่า “การได้เดินทางบ่อย ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นกูรูเสมอไป” ฮ่าๆ

แล้วทีนี้จะเอายังไงต่อ ฝ้ายเสนอแผนหนึ่งขึ้นมาว่า งั้นเรายกวันถ่ายทำที่โตโกไว้วันสุดท้ายเลยไหม ถ่ายเบนินให้จบ แล้วออกไปรอบเดียวเลย พูดคุยกันมาได้ข้อสรุปว่า แผนนี้ไม่เวิร์ค เพราะเราต้องกลับมาขึ้นเครื่องที่เบนินอยู่ดี

“แล้วถ้าออกไป ค่อยกลับเข้ามาทำวีซ่าใหม่ที่นี่ ทำได้ไหม?” เราคิดง่ายๆ ขึ้นมา ช้อยส์นี้จักรบอกไม่รู้ เดี๋ยวไปถามให้ หลังพูดจบจักรก็ขอตัวออกไปถามข้อมูลกับ ตม. (ไม่ออกตัวแรง ตอบคำถามแทนเจ้าหน้าที่แบบเมื่อกี้แล้ว)

“แต่เราต้องเสียเงินทำวีซ่าใหม่นะ เงินใกล้หมดแล้วด้วย”

“เงินไม่เหลือเลยเหรอ?”

“เหลือตอนนี้ แต่จะไม่พอเอาไปใช้ที่ตุรกี”

เป็นบทสนทนาระหว่างเราสองคน  ถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า ไอ้พวกนี้มันออกไปทำรายการกันยังไง ทำไมไม่มีเงิน ...ย้อนกลับไปช่วงต้นที่อธิบายไป เดินทางกันแบบยาวๆ  ดังนั้นการแบกเงินสด 6-7 แสนไปรอบโลกแล้วตามจ่ายทีละนิด ทีละหน่อย เลยดูเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไปสำหรับพวกเรา

การเลือกจ่ายเงินค่าคนนำทาง ค่าประสานการถ่ายทำทั้งหมดให้ครบก่อนเดินทาง เพื่อให้พกเงินสดน้อยที่สุด เหลือแค่เงินใช้อยู่ใช้กินของพวกเรา (เบี้ยเลี้ยง) และค่าสำรองการผลิตซึ่งเป็นเงินที่ต้องใช้สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน (ซึ่งก่อนจะมาถึงเบนิน เรามีเรื่องฉุกเฉินเยอะมากจากชิลี) เงินที่มีเลยเหลือไม่มากนัก การกินอยู่จึงต้องวางแผนดีๆ ใช้ให้ประหยัดที่สุด

“ออกไปแล้ว กลับเข้ามาทำวีซ่าที่นี่ได้” จักร เดินมาบอกเรา ...ค่อยโล่งใจไปหนึ่งเปราะ

“แต่ราคาต่อคนอยู่ที่ 125 ยูโรนะ” จักรบอก

“เห้!! ทำไมมันแพงจัง!!” เราสองคนสบถออกมา

“ใช่ ราคาคนละ 125 ยูโร อยู่ได้ 7 วัน” ดูจากสีหน้าและคำพูดแล้ว บอกเลยว่า ตอนนี้บักจักรเองก็เครียดไม่ต่างกับเรา

อยู่ได้ 7 วัน กับเวลาที่เรามีเหลืออยู่ในประเทศนี้ 8 วัน นั่นหมายความว่าเวลาที่ได้นั้นไม่พอกับวันที่เรากลับ และเราจะกลายเป็นคนที่ออกประเทศอย่างผิดกฎหมาย จะมีปัญหาอีกแสนแปดตามมา ตั้งแต่ปรับ ถูกขึ้นแบล็คลิสต์ บลาๆ ดีไม่ดี อาจเป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่บางคนที่นิสัยไม่ดี รีดไถเราอีกในอนาคต ระหว่างที่กำลังปรึกษากัน สิ่งสำคัญที่เรากำลังใช้มันอย่างเปล่าประโยชน์ นั่นคือ “เวลา” ที่ได้ผ่านไปเรื่อยๆ จากเช้า จนเที่ยง ที่จักรต้องเดินเข้า เดินออก ระหว่างโต๊ะเจ้าหน้าที่ และคอยตอบข้อสงสัยให้เรา

 “ถ้ามันจำเป็นก็ต้องไปแหละ 3 คน รวมประมาณ 12,000 บาท แต่ประเด็นคือเราไปวันนี้ไม่ได้ เพราะกลับมามันอยู่ต่อได้แค่ 7 วัน” ฝ้ายบอก

“แล้วเราจะอยู่ทำอะไร?” เราถาม

“ก็ลองคุยกับจักรดู” ฝ้ายบอก

เรา 3 คน และจักร เดินออกมาอย่างเซ็งๆ จากด่านตรวจคนเข้าเมือง ถึงตอนนี้ จักรมันคงคิดด่าเราในใจ ที่ทำไมไม่จัดการเรื่อง VISAs ให้เรียบร้อย ไม่น่ามาตายน้ำตื้นแบบนี้

“จากตรงนี้ ถึงโรงแรมน่าจะประมาณ 3-4 โมงเย็น พวกเราจะทำอะไรกันดี?” จักรถาม

ผลสรุปที่ได้คือ วันนั้น เราเข้าไปถ่ายภาพสต็อกเก็บไว้นิดหน่อย ก่อนตะวันตกดิน และนั่งคุยกันเรื่องแผนการเดินทางอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับอารมณ์โกรธในความสะเพร่าของตัวเอง

สถานการณ์ในกองของเราเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเงิน เวลา และแผนการเดินทาง มันเริ่มไม่สัมพันธ์กัน หลายคนคงคิดว่า เรื่องพวกนี้ปกติ การเดินทางท่องเที่ยว ย่อมพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเสมอ ซึ่งเราเองก็พยายามหลอกตัวเองให้ทำใจได้ แต่มันติดตรงที่เรามาทำงานนี่สิ แล้วงบที่ได้มาก็ไม่ใช่หมื่น สองหมื่นซะด้วย...ถ้าเป็นหนัง วันนี้คงเป็นดราม่าอีกหนึ่งเรื่อง ที่เราเองจะต้องจำไว้เป็นบทเรียน

ติดตามการเดินทางของฝ้าย เก่ง ในปักหมุดสุดขอบโลก ได้ทุกวันอาทิตย์ 08.30 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36 ออกไปเห็นโลกกว้างขึ้น เห็นตัวเองเล็กลงกันต่อ ในตอนต่อไปอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2563 เวลา 08.30 น. นี้นะครับ

 

 

TOP ไลฟ์สไตล์
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ