เปิดบันทึกโลกลึกลับของวูดู ตอนที่ 3


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังผิดแผนจากการเดินทาง พวกเราต้องปรับแผนการเดินทางใหม่ โดยวันนี้ เราจะเริ่มการเดินทางไปที่เมืองวีด้าห์ เพื่อถ่ายทำเรื่องการค้าทาส และป่าศักดิ์สิทธิ์ และตำหนักงูเหลือม (เป็นชื่อที่เราตั้งกันเองให้เรียกง่ายๆ) ต่อด้วยช่วงบ่าย เราจะมุ่งหน้าไปทางตะวันออกที่ชานเมืองโปรโต โนโว เพื่อดูพิธีเรียกวิญญาณบรรพบุรุษ ที่เขาว่ากันว่า เป็นพิธีกรรมสำคัญในศาสนาวูดู ฟังดูแล้ววันนี้ โปรแกรมแน่นมาก จนเราเริ่มรู้สึกว่า ไม่น่าทัน

“วันนี้ เราจะไปป่าศักดิ์สิทธิ์ก่อนนะ ที่นั่นเป็นป่าที่มีรูปเคารพของเทพในวูดูหลากหลายรูปแบบ แล้วไปต่อที่ศาลเทพเจ้างู” จักรบอกกับเรา

บันทึกโลกลึกลับของวูดู

บันทึกโลกลึกลับของวูดู ตอนที่ 2

ไม่กี่อึดใจ พวกเราก็มาถึงโลเคชั่นแรกของการทำงาน ภาพที่อยู่ตรงหน้า คือพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยไม้ใหญ่ปกคลุม มีเพียงเสียงใบไม้ที่พัดไหวไปตามลม  ช่างแตกต่างกับภาพของความวุ่นวายในตัวเมืองโคโตนูอย่างเห็นได้ชัด

“ตรงนี้คือป่าศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาวูดู ที่นี่เปิดบางส่วนให้ชาวบ้านเขามาพักผ่อน หรือกราบไหว้องค์เทพ และมีอีกส่วนหนึ่งที่กันไว้ให้กษัตริย์เข้าไปบำเพ็ญเพียร” จักรบอกเรา

 “แล้วหุ่นปั้นเหล่านี้ล่ะ คืออะไร” เราถาม

“นี่คือเทพวูดู”  หลังจากที่เราได้ฟังเรื่องราวขององค์เทพมานาน นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นองค์เทพในแบบที่เห็นหน้าตากันจริงๆ จากก่อนนี้ที่เห็นผ่านจอมปลวก หรือผ่านเสียงฟ้า ฝน ที่กระหน่ำเรามาตลอดการเดินทาง เพราะทั่วทั้งป่า เรียงรายไปด้วยรูปปูนปั้นที่มีรูปทรงแปลกตาเต็มไปหมด บางองค์ก็แปลกจนเราขอให้ภาพเล่าเรื่องแทน เราเดินตามคำอธิบายของจักรและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไปเรื่อยๆ จนมาหยุดถึงรูปปั้นเทพองค์หนึ่งที่มีหน้าตาค่อนข้างประหลาด มีใบหน้าปรุ และตุ่มทั่วไปทั้งตัว

“นี่คือเทพอะไร?” เราถามด้วยความสงสัยจากใจ

“เป็นเทพที่คอยรักษาโรคฝีดาษ” จักรบอก

“ทำไมถึงบูชาโรค? เราว่ามันแปลกๆนะ”

“ยุคนั้น วิทยาการทางการแพทย์ยังไม่ทันสมัย ฝีดาษระบาดหนักมากในเบนิน จนสุดท้ายชาวบ้านไม่รู้จะพึ่งใคร เมื่อปราบไม่ได้ ก็บูชามันซะเลย ว่าเทพนี้ เป็นผู้ปกป้องฝีดาษ ด้วยการรับเชื้อจากชาวบ้านมาไว้กับตัวเองแทน” เจ้าหน้าที่ในป่าศักดิ์สิทธิ์อธิบายเรา

 “วูดูเราบูชาทุกอย่างแหละ อะไรที่เราไม่สามารถหาคำตอบได้” จักรเสริมท้าย

เราใช้เวลาอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์ร่วมชั่วโมง เข้าซอกนั้น ออกซอกนี้ จนมีความคิดว่าภาพของวูดูที่เราเคยเห็นในหนัง มันคนละเรื่องกับวูดูจริงๆ ที่เราเห็นกับตา เพราะป่าศักดิ์สิทธิ์ที่เราได้สัมผัส ไม่ได้ดูลี้ลับอย่างที่เราจินตนาการ แต่กลับสงบ ร่มรื่น อย่างกับสวนโมกข์ของท่านพุทธทาสฯ อย่างไงอย่างงั้น

พอได้เวลา เราก็ย้ายโลเคชั่นไปถ่ายทำต่อที่ศาลเทพเจ้างูเหลือม ที่ตั้งอยู่กลางเมือง

บรรยากาศรอบๆ ไม่ต่างอะไรกับศาลเจ้าทั่วไปที่เราเคยพบเห็นมา แปลกต้องที่ว่า ที่นี่ไม่มีรูปเคารพ แต่เต็มไปด้วยภาพวาดงูเหลือม รายล้อมอยู่ทั่วบริเวณ

“นี่คือเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลศาลแห่งนี้” คนนำทางบอกเรา

ภาพที่เห็นตรงหน้า คือชายหนุ่มรูปร่างกำยำ แต่งกายด้วยชุดผ้าแพรสีกรมท่า และมีเอกลักษณ์เด่นอยู่ที่ใบหน้า คือรอยบาก 2 ขีด ที่อยู่กลางหน้าผากช่วงระหว่างคิ้ว และบนโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง

“สัญลักษณ์นี้ถูกทำขึ้นโดยพ่อของเขา เพื่อเป็นการบูชาเทพเจ้างู เพราะว่างูนั้นมีสัญลักษณ์นี้เช่นกัน แต่นั้นเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ พวกเราเองที่ถือเป็นลูกหลานของงู จึงต้องทำสัญลักษณ์นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการบูชา” คนนำทางอธิบาย

“สัญลักษณ์นี้ต้องทำตั้งแต่อายุเท่าไหร่ และใครเป็นคนเลือกให้เข้ามาทำงานรับใช้องค์เทพ” พวกเราถาม

“เราคัดผ่านสายเลือด โดยหน้าที่นี้จะมีครอบครัวที่ถูกรับเลือกโดยเฉพาะ ทุกคนที่เกิดมาในครอบครัวนี้จะถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่  ดูแลศาลโดยเฉพาะ และต้องทำสัญลักษณ์นี้ไม่ว่าจะเต็มใจ หรือไม่เต็มใจก็ตาม” คนนำทางบอก

การคัดเลือกคนทำงานในศาล และสัญลักษณ์ที่อยู่ตรงหน้า น่าจะเป็นความแปลกอย่างแรกที่เราเข้ามาเจอ เอาเข้าจริง เราแอบนึกเสียดายที่ไม่ได้เจาะประเด็นความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้ถูกเลือก ว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร ในฐานะของการเป็นผู้รับใช้เพียงหนึ่งเดียวขององค์เทพที่คนทั้งเมืองต่างให้การเคารพ แต่ถึงอย่างไร ทั้งครอบครัวผู้ถูกเลือก และสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ 2 ก็ยังไม่ถือเป็นเรื่องราวแปลกสุด เท่ากับการเข้าเฝ้าองค์เทพแบบตัวเป็นๆ...

ใช่!! เรากำลังเดินเข้าไปสู่ตำหนักที่มีงูเหลือมกว่าร้อยชีวิตอาศัยอยู่...

ออกไปเห็นโลกกว้างขึ้น เห็นตัวเองเล็กลงกันต่อ กับพวกเราในประเทศเบนิน อาทิตย์ที่ 19 เมษายน นี้ ทาง PPTV HD ช่อง 36 หรือชมย้อนหลังทาง http://pptv36.tv/C22

          

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ไลฟ์สไตล์
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ