ถอดรหัส 5 New Mindset รับโลกวิถีใหม่


โดย ดนัย จันทร์เจ้าฉาย

เผยแพร่




เมื่อโลกเปลี่ยนไป ใจเราย่อมเปลี่ยนแปลง วันนี้วิกฤตการณ์โควิด 19 ที่โลกกำลังเผชิญความ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่เว้นทั่วทุกทวีป ทุกประเทศ ทุกสังคมบนพื้นพิภพ ไม่ว่ายากดีมีจน เศรษฐีหรือยาจก ทำให้เราต้องเปลี่ยนแปลง Mindset หรือมุมมองที่เรามีในการใช้ชีวิต ผมขอนำเสนอ 5 New Mindset รับมือโลกยุค New Normal ดังนี้

1.Growth Mindset 

ทุกจังหวะของชีวิตคือการเรียนรู้ ทุกคนจำเป็นต้องตั้งโปรแกรมมองโลกบวกไว้ที่ใจ เก็บเกี่ยวประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้เรามองภาพใหญ่ว่ามีสถานการณ์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง มีประโยชน์และการพัฒนาอะไรบ้าง ไม่ใช่โฟกัสแค่ที่ปัญหา ให้เรามองในสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ขาด โฟกัสในสิ่งที่เราควบคุมได้ ไม่ใช่ที่ควบคุมไม่ได้ 
ข้อดีมีมากมาย เช่น การประชุมออนไลน์ การ Work from home การเรียนรู้ทางเทคโนโลยี (Digital Literacy) การมีคุณภาพชีวิตครอบครัวที่ดีขึ้น สิ่งแวดล้อมดีขึ้น

7 New Normal ที่อาจได้เห็นในสังคมไทยในวันที่ โควิด-19 หายไป

เปิดนวัตกรรมยุค New Normal ปกปิด ปกป้อง ให้ ปลอดภัยจากโควิด-19

เมื่อ 2,600 ปีก่อน เกิดกระบวนการเรียนรู้ครั้งสำคัญของมวลมนุษยชาติ นั่นคือ การอุบัติเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโลกมากมาย แม้ว่า สิ่งที่พระองค์ทรงสอนมีแค่ใบไม้ในกำมือ แต่สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ และนำมาสอนก็ยังใช้ได้จริงจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากความคิดผิดมาเป็นความคิดถูก จากมิจฉาทิฐิเป็นสัมมาทิฐิ 

เราทุกคนจึงควรเรียนรู้จากทุกข์หรือปัญหา ไม่ใช่แบกปัญหาหรือเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา

นอกจากนี้ Growth Mindset คือ การคิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสู่สถานที่ที่ดี จะทำให้เราโชคดี มีชีวิตที่เป็นมงคล สามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดีเพราะใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ

2.  ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง (Adaptable to Change)

200 ปีก่อน Charles Darwin ได้กล่าวไว้ในเรื่องวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตว่า สิ่งมีชีวิตที่แข็งแแกร่งและฉลาดอาจสูญพันธุ์ หากไม่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงพัฒนาตนเอง ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหมด มนุษย์มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าสัตว์ทุกชนิด แต่พระองค์แรกที่กล่าวเรื่องนี้ คือ พระพุทธเจ้าซึ่งได้ตรัสว่า ทุกสิ่งไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่แท้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีสิ่งใดมีความเสถียร จีรัง คงทน สมบูรณ์อยู่ได้ ทุกอย่างล้วนเสื่อมสลาย ไม่ว่าคนสัตว์สิ่งของ โดยมนุษย์ตกอยู่ภายใต้โลกธรรม 8 มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา ไม่มีใครหลีกพ้น

ทุกคนจึงอยู่ท่ามกลางภัยอันตราย ยิ่งเราเห็นข่าวการตายของเพื่อนร่วมโลก เช่น อินเดีย 
บราซิล ยิ่งเห็นว่าทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกคน โลกทั้งผองล้วนพี่น้องกัน เราเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะยากดีมีจน จึงควรเห็นภัยในสังสารวัฏ ภัยของการเวียนว่ายตายเกิดนับครั้งไม่ถ้วน

3. มีชีวิตที่ตื่นรู้ (Awakening)

การมีชีวิตอยู่กับความจริง ไม่ใช่ความคิด เป็นสิ่งสำคัญ โลกวิถีใหม่บังคับให้เราสวมหน้ากากผ้า ไม่คลุกคลีกับหมู่คณะ รักษาระยะห่าง เป็นการฝึกให้เราตื่นรู้ อยู่กับการสำรวมระวัง กาย วาจา ใจ มีสติสัมปชัญญะ มีความเป็นปกติ มีศีลรักษาตัวเรา ครอบครัวเรา สังคมเราไม่ไปทำสิ่งไม่ดี ไม่ไปในที่โคจร


เวลาสวมแมสก์ ให้สังเกตว่าหายใจเข้าเย็น หายใจออกอุ่น ให้เราสังเกตลมหายใจ ฝึกอาณาปาน
สติ หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ เห็นคุณค่าของลมหายใจ ให้ใจโล่ง โปร่ง เบาสบาย บำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญจิตตภาวนา นั่งสมาธิ เดินจงกรม เป็นการพัฒนาตนเอง 
ให้ระลึกรู้ว่าโลกของความจริง ทุกสรรพสิ่งเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่โลกความคิดที่มีแต่ความแตกแยก เป็นการยกระดับจิตสำนึก Consciousness ครั้งสำคัญของโลก เมื่อฝีกไปเรื่อยๆ จิตจะมีสติ สมาธิ ปัญญา เป็นการคิดจากความว่าง จากการมีตัวตน จากการปรุงแต่ง จนเข้าถึงปัญญาที่สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าได้อย่างฉลาดปราชญ์เปรื่องที่สุด เป็นจิตเหนือสำนึก หรือ จิตเหนือความคิด
ที่สำคัญเราจะรู้ด้วยตนเองว่าความทุกข์ที่สุดอยู่ที่ไหน ความสุขที่สุดอยู่ที่นั่น ความสุขที่ปราณีต อยู่ภายในกายในใจเรา ให้เชื่อมั่นในความดี ความจริง ความกตัญญูรู้คุณ และรู้หลักการสำคัญว่า ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน อัตตาหิ อัตตาโนนาโถ

4. ฝึกทักษะใหม่ Upskill Reskill

สองคำนี้ถูกนำมาใช้กันบ่อยมากในแวดวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตั้งแต่ก่อนวิกฤตโควิด-19 
แต่วันนี้ ยิ่งเห็นชัดถึงความจำเป็น สิ่งสำคัญคือ ทุกคนต้องก้าวออกจาก Comfort Zone ต้องพร้อมที่จะทำตัวเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่า เพราะไม่เป็นเพียงแค่ Relearn คือ เรียนรู้ใหม่ แต่ถึงขนาด Unlearn คือ เอาของเก่าทั้งหมดทิ้งไปเลย! เราจึงจะสามารถ Upskill และ Reskill ได้

พอดีผมได้รับข้อมูลส่งต่อทางไลน์ เรื่องปรัชญา 5  “ไม่” เป็นของคุณอภิชาติ #slingshot เห็นว่า
เป็นประโยชน์ตรงกับ Mindset นี้ ขออนุญาตนำบางส่วนมาลงประกอบด้วย

สิ่งที่ห้ามคิดและห้ามพูด!

4.1 ยาก ทำไม่ได้ – เพราะถ้าเริ่มต้นคิดว่ายาก ทำไม่ได้ มันก็คงทำไม่ได้ แต่ถ้ารู้ว่าทำไม่ได้ แล้วไปขวนขวายเรียนรู้ ก็จะค่อยๆ ทำได้เอง ไม่มีใครทำไรได้ ตั้งแต่เกิด

4.2 เหนื่อย ทำไม่ไหว – คนที่ประสบความสำเร็จทุกคน ไม่มีใครทำงานสบาย ถ้ารู้สึกเหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยแล้ว ก็ลูกขึ้นมาทำต่อ

4.3 งง คิดไม่ออก – ยิ่งไม่คิด ยิ่งคิดไม่ออก หากต้องคิดอะไรแล้วรู้สึกงง สมองตื้อ คิดไม่ออก ก็ไปหาอย่างอื่นทำสักแป๊บ พอสมองปลอดโปร่งค่อยกลับมาคิดใหม่ อย่ายอมแพ้ด้วยการบอกตัวเองว่า “คิดไม่ออก”

4.4 ไม่รู้ ทำไม่เป็น – ถ้าไม่รู้ ก็ไปหาความรู้ ทำไม่เป็น ก็ไปฝึกฝน คนที่คิดและพูดแบบนี้คือ คือคนที่ใจไม่สู้ ตอบแบบขอไปที ให้จบๆ ไป จะได้ไม่ต้องทำ

4.5 เบื่อ ไม่อยากทำ – เรื่องบางเรื่องในชีวิต ก็ต้องทำแม้ไม่อยาก ลองคิดดู หากตลอดชีวิต เลือกทำแต่สิ่งที่อยาก อะไรที่ไม่อยาก ก็ไม่ทำ รับรองชีวิตจะไม่มีโอกาสเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้

5. Lifeskill ทักษะชีวิต ปรัชญาพอเพียง

บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า องค์การสหประชาชาติได้ประกาศเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 
17 ข้อ เพื่อความอยู่รอดของโลกใบนี้ ที่เรียกว่า UN SDGs 2030 มีเป้าหมายให้บรรลุภายใน 10 ปีข้างหน้า ถึงกับประกาศว่าเป็น Decade of Action หรือ ทศวรรษแห่งการลงมือปฏิบัติ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ของคนไทย จากโครงการในพระราชดำริ 4,800 กว่าโครงการ และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นั่นคือ พอประมาณ ทางสายกลาง ไม่สุดโต่ง มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน มีการประเมินความเสี่ยง บนพื้นฐานความรู้ คู่คุณธรรม

นอกจากนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังได้พระราชทานแนวทางการทำงานที่เป็นรหัสสำคัญในการ
พัฒนาตนเอง การทำงานและสังคม นั่นคือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เป็นการเข้าใจความจริง นั่นคือ เข้าใจธรรมชาติ ดินน้ำลมไฟ ภูมิสังคม วัฒนธรรม ขนบประเพณี   เข้าถึง คือ การเข้าใจอย่างซาบซึ้ง เข้าถึงจิตใจของตนเองและผู้อื่น ความสุขความทุกข์ จนกระทั่งสามารถพัฒนาสติปัญญา ให้เห็นโอกาสใหม่ เห็นทางเลือกที่สาม ที่สำคัญ จะต้องไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น ดำรงความสมดุลย์ ของเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ชุมชน
 

TOP ไลฟ์สไตล์
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ