เติมใหม่ในเก่า ที่ท่าฉลอม เนรมิตพื้นที่อันน้อยนิดเพื่อรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของชุมชน รังสรรค์หอเก็บน้ำเก่าให้กลายเป็นห้องสมุดลอยฟ้า
เมื่ออัตลักษณ์ของชุมชนชาวประมงกำลังเลื่อนหาย ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานกันนับตั้งแต่อดีตกำลังเผชิญความท้าทายจากความเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ความเป็นเมืองและประชากรแฝงเข้ามามากขึ้นตามกาลเวลา ย่อมทำให้สิ่งเก่าค่อยๆ ถูกกลืนหายไป รวมถึง การขาดแคลนพื้นที่สาธารณะเพื่อสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน ไปจนถึงการเลือนหายของอัตลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิถีเศรษฐกิจและวัฒนธรรมประมงของท่าฉลอมซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากกฎหมายและข้อกำหนดการทำประมงนานาชาติ
ชวนเช็กอิน “ตำหนิโฮสเทล” ที่พักดีไซน์สวยที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
“เรือนพินรัตน์” สถาปัตยกรรมแห่งความทรงจำที่หลอมรวมบ้านไม้หลังเก่า รำลึกบุคคลที่รัก
“ลานบ้านท่าฉลอม” จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อสร้างต้นแบบพื้นที่สาธารณะที่ชุมชนร่วมเป็นเจ้าของ และส่งเสริมสุขภาวะของชุมชนอย่างเป็นองค์รวม
จากพื้นที่สาธารณะของชุมชนกลายเป็นพื้นที่ส่งเสริมสุขภาพและรองรับการทำกิจกรรมของชุมชน ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ไปพร้อมกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของท่าฉลอมให้กลับมามีชีวิตชีวาต่อไป
และจุดเด่นของ “ลานบ้านท่าฉลอม” จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ห้องสมุดเก๋งเรือลอยฟ้าท่าฉลอม” ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากความครีเอทและเทคนิคเชิงสถาปัตยกรรม
ห้องสมุดเก๋งเรือลอยฟ้าท่าฉลอม ( Tha Chalom Sky Boat Library ) แนวความคิดในการออกแบบโครงการการพลิกฟื้นวัฒนธรรมชุมชนท่าฉลอม สุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย
ปรับเปลี่ยน หอเก็บน้ำเก่า สู่ “ห้องสมุดเก๋งเรือลอยฟ้าท่าฉลอม”
ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ซึ่งมีขนาดเล็กเพียง 2 ไร่ และเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่หลากหลายของชุมชน พร้อมไปกับการเก็บรักษาพื้นที่สีเขียวที่มีอยู่น้อยนิดของท่าฉลอมให้คงความเป็นพื้นที่ธรรมชาติให้ได้มากที่สุด สถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ ที่รับหน้าที่ออกแบบจึงเสนอแนวคิดในการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างของหอเก็บน้ำประปาเก่าที่มีอยู่ในพื้นที่และไม่ได้ใช้งานแล้วในปัจจุบัน มีความเสี่ยงที่อาจจะถูกรื้อทิ้งได้ในอนาคต ให้กลายเป็นห้องสมุดและพื้นที่เรียนรู้สำหรับเยาวชน
และได้รับรางวัลเหรียญเงิน สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภท ความยั่งยืน ชุมชน สิ่งแวดล้อม สังคม จาก สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2565
เติมใหม่ในเก่า
ห้องสมุดลอยฟ้าเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาเมืองการออกแบบใช้วิธีการเติมโครงสร้างคานเหล็กสีดำที่เป็นโครงสร้างใหม่เกาะไปกับโครงสร้างเสาคอนกรีตสีขาวของหอเก็บน้ำเดิมให้ เพื่อให้เห็นความแตกต่างระหว่างโครงสร้างเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์กับโครงสร้างใหม่ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาตามความต้องการพื้นที่ใช้งานอย่างชัดเจน
พื้นที่ใช้สอยมีทั้งหมด 4 ชั้น ถูกออกแบบให้เป็นทรงลูกบาศก์ที่สื่อถึงรูปลักษณ์ของเก๋งเรือด้วยวัสดุสมัยใหม่เกาะไปบนโครงสร้างเหล็กล้อมรอบหอเก็บน้ำเดิม
ด้วยลักษณะของโครงสร้างหอเก็บน้ำที่มีลักษณะสอบเข้าที่ด้านบน จึงกำหนดให้ห้องสมุดและพื้นที่อ่านหนังสือซึ่งเป็นพื้นที่ใช้งานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่บริเวณชั้น 2 และเปิดพื้นที่ชั้นล่างให้เป็นใต้ถุนโล่งเพื่อรองรับการใช้งานที่ยืดหยุ่นและรักษาความต่อเนื่องเป็นผืนเดียวกันให้กับพื้นที่สีเขียวโดยรอบ
เชื่อมต่อกับ “ลานไต้ก๋ง” พื้นที่บ่อเก็บน้ำประปาใต้ดินเดิมที่ถูกปรับให้เป็นสนามเด็กเล่นที่สร้างจินตนาการถึงวิถีชีวิตกลางทะเลบนเรือประมง พื้นที่สองชั้นบนสุดออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งอ่านหนังสือและจุดชมวิว โดยใช้ศักยภาพจากความสูงของหอเก็บน้ำที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพมุมสูงของการตั้งถิ่นฐานริมแม่น้ำท่าจีนทั้งหมดของท่าฉลอม ให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่สร้างความประทับใจ ความเข้าใจ และความตระหนักในความเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกันของเมือง เพื่อสร้างสำนึกสาธารณะในการร่วมดูแลรักษาสภาพแวดล้อมให้กับเยาวชนรวมถึงนักท่องเที่ยว ที่จะมามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองท่าฉลอมร่วมกันต่อไป
ความยั่งยืนจากชุมชน...สู่ชุมชน ด้วยงบประมาณ 6.8 ล้านบาท
ห้องสมุดเก๋งเรือลอยฟ้า ลานบ้านท่าฉลอมนี้ ถูกพัฒนาขึ้นด้วยความมุ่งหวังให้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการเรียนรู้และท่องเที่ยว ที่จะเชื่อมโยงเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับแผนการพัฒนาการท่องเที่ยวบนฐานวัฒนธรรมของท่าฉลอมในภาพรวม
กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน เป็นหนึ่งในรูปธรรมความสำเร็จของการพัฒนาพื้นที่สาธารณะขนาดเล็กในเมืองด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ที่จะนำไปสู่การมีสุขภาวะที่ดีของเมืองอย่างเป็นองค์รวม พร้อมไปกับการสร้างสำนึกรักและความเป็นเจ้าของพื้นที่สาธารณะของชุมชนผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม ที่จะนำไปสู่การสร้างกลไกในการบริหารจัดการและดูแลรักษาพื้นที่ร่วมกันระหว่างชุมชน ภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่นต่าง ๆ และขยายผลไปสู่กลไกในการบริหารจัดการพัฒนาเมืองท่าฉลอมอย่างยั่งยืนต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์
คนกรุงกว่าครึ่ง "แตะเพื่อจ่าย" ผ่านบัตร ใช้เดินทางในชีวิตประจำวัน