ย้อนวันวานที่ “พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า” ณ วังสระปทุม (คลิป)


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เป็นประจำทุกปีที่ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จะเปิดให้ประชาชนได้เข้าชม ปีละหนึ่งครั้ง โดยมีระยะเวลาตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงมีนาคม ด้วยระยะเวลาที่เปิดให้เข้าชมได้ไม่นานนัก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ใครหลายคนอยากจะเข้าชมให้ได้สักครั้งในชีวิต

ในปีนี้นับเป็นโอกาสดีที่ในปีนี้ ได้มีการเพิ่มเวลาการเข้าชมอีก 1 เดือนเต็ม คือ ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ส.ค. 59 แต่ทว่าทันทีที่มีข่าวการเปิดให้จองรอบการเข้าชมนั้น ก็มีประชาชนได้โทรมาจองรอบการเข้าชมจนเต็มในเวลาไม่นาน วันนี้ ทีมข่าวนิวมีเดีย พีพีทีวี ได้มีโอกาสไปเก็บเรื่องราวมาบอกเล่า กับสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ และเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย

 

พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ตั้งขึ้น ณ พระตำหนักใหญ่ วังสระปทุม ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริว่า เป็นสถานที่สำคัญแห่งพระราชวงศ์และแห่งชาติ เนื่องจากเป็นประทับของสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ตั้งแต่ พ.ศ. 2459 ตราบจนเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2489 และเป็นที่ประทับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในเวลาต่อมา สมควรที่จะจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ แสดงพระราชกรณียกิจอันเป็นแบบอย่างอันดีงามแห่งการดำรงชีวิตที่อำนวยประโยชน์สุขแก่คนหมู่มาก


เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานวังสระปทุมให้เป็นที่ประทับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังจากเสด็จฯ ไปประทับอยู่ที่วังสระปทุม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัด “พระตำหนักใหญ่” เป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นสนองพระราชดำริและพระราชปรารภแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาพระราชกรณียกิจแห่งสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการเปิดพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ณ พระตำหนักใหญ่ วังสระปทุม ในวันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

 

การจัดแสดงพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มีการจัดแสดงแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

 

หอนิทรรศการ  จัดเป็นห้องฉายวีดิทัศน์แสดงพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าในด้านต่างๆ  แผนผังลำดับราชสกุลวงศ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และนิทรรศการพิเศษซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในมงคลวาระต่างๆ

 

 โดยในเดือนนี้เป็นนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2558  จึงมีการจัดนิทรรศการ “สัปตมวรรตบรมขัตติยราชินีนาถ” โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติอันเกี่ยวเนื่องด้วยวังสระปทุม ที่ประทับของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2493 และเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจทั้งด้านการศึกษา การสังคมสงเคราะห์ การพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกร การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย

 

พระตำหนักใหญ่ เป็นพระตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ตั้งแต่ พ.ศ. 2459  ตราบจนเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 2498ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของพระตำหนักใหญ่ เป็นอาคารคอนกรีตก่ออิฐถือปูนสูง 2 ชั้น มีห้องใต้ดินอีก 1 ชั้น  รูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีระเบียงพื้นคอนกรีตยื่นออกมาโดยรอบพระตำหนัก  องค์พระตำหนักหันหน้าไปทางทิศเหนือ (คลองแสนแสบ) มีมุขเฉลียงยื่นออกนอกองค์พระตำหนักทั้ง 4 ทิศ  บันไดหลักขึ้นสู่พระตำหนักอยู่ทางทิศเหนือ และมีบันไดขึ้นอีก 2 ทางด้านมุขทิศตะวันออกและทิศตะวันตก  พระตำหนักภายนอกทาสีเหลืองทั้งองค์ ภายในทาสีเขียวและสีขาวนวล หลังคาเป็นทรงปั้นหยาหักมุขและลดระดับตามรูปแปลนของพระตำหนัก

การจัดแสดง ณ พระตำหนักใหญ่ ได้จัดห้องต่างๆ ไว้เป็น 3 ช่วงเวลา คือ

 

ช่วงที่ 1 เป็นช่วงของการสร้างพระตำหนักแล้วเสร็จ และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) เสด็จฯ กลับมาจากต่างประเทศมาประทับอยู่ ซึ่งปรากฏให้ชมได้ในห้องรับแขก และห้องพิธี 

ช่วงที่ 2  เป็นช่วงที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์  ทรงเสกสมรสแล้ว และมีพระราชธิดาหนึ่งพระองค์ ทรงพาครอบครัวเสด็จฯ กลับจากประเทศอังกฤษ และมาประทับอยู่ที่วังสระปทุมอีกวาระหนึ่ง การจัดสิ่งของเครื่องใช้ในห้องแสดงของพิพิธภัณฑ์ฯ ในช่วงนี้ได้แก่ ห้องเทา และห้องทรงพระอักษร

ช่วงที่ 3 จัดแสดงให้เห็นภาพในห้องพระบรรทม ห้องทรงนมัสการ และห้องทรงพระสำราญ เป็นช่วงเวลาที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ทรงมีพระราชโอรสเพิ่มขึ้นอีก 2 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน และเสด็จกลับจากทรงศึกษาวิชาการแพทย์ จากสหรัฐอเมริกาพร้อมครอบครัว  

นอกจากนี้ยังมีบริเวณ “เฉลียงพระตำหนักใหญ่ชั้นบน”  ซึ่งสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าโปรดที่จะประทับในช่วงปลายพระชนม์ชีพ ณ  บริเวณนี้มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีซึ่งเป็นพระราชกรณียกิจสำคัญสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพของสมเด็จ  พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า คือ ทรงเป็นประธานในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ   

 “ห้องนิทรรศการ” จัดแสดงเอกสารและของใช้ส่วนพระองค์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า รวมถึง ตู้หาบสิ่งของขายของชาวจีนที่เรียกว่า “เจ๊กตู้”  สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าโปรดให้เข้าไปขายในวังสระปทุมเป็นปกติ เพราะมีของถูกๆ แปลกๆ ให้พระราชนัดดาทั้ง 3 พระองค์ได้ทรงเลือกซื้อ

 

นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายอาหารและร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะประดับภาพวาดฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะพระราชทานภาพสัตว์สัญลักษณ์ปีนักษัตรต่างๆ ปี2559 นี้ เป็นภาพลิงสัญลักษณ์ของปีวอก

ในแต่ละปี พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมตามช่วงเวลาดังกล่าว ปรากฏมีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก บางรายมีความประทับใจ กลับมาเข้าชมหลายครั้ง และนำกลับไปนำญาติสนิทมิตรสหายมาชมอีกหลายครั้ง บ้างก็ชื่นชอบในรสชาติอาหารของร้านอาหารของพิพิธภัณฑ์ ชื่อ “ร้านปทุมสรัส”  บ้างก็มาอุดหนุนผลิตภัณฑ์ ซึ่งเงินรายได้ของพิพิธภัณฑ์จะนำไปใช้ในกิจกรรมการกุศลของมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ เปิดให้เข้าชมทุกวันในเดือนธันวาคม – มีนาคมของทุกปี เว้นวันอาทิตย์  ตั้งแต่เวลา 10.00  – 15.00 น. ประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์อยู่ทางด้านหน้าของโรงแรมสยามเคมปินสกี  เนื่องจากเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก  กรุณานัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้าชม  โดยติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-252-1965 -67 โดยมีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท  นักเรียน-นักศึกษา 50 บาท 

 

TOP ไลฟ์สไตล์
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ