อาทิตย์นี้ ประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยที่ 71 ในนครนิวยอร์ก ค่อนข้างพิเศษ มีสามประเด็นเด็นคือ สถานการณ์ในซีเรีย วิกฤตผู้ลี้ภัย และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
สถานกาณ์ในซีเรียเป็นเรื่องของการแช่งขันระหว่างมหาอำนาจคือรัสเซียและสหรัฐอเมริกาในระดับหนึ่ง และในระดับภูมิภาคเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างประเทศมีชายแดนติดต่อกับซีเรีย มีทั้งอิหร่าน ตุรกี อิรักและกลุ่มติดอาวุธฝ่ายรัฐบาลสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดที่ยังอยู่ในอำนาจ มีรัสเซียเป็นผู้หนุนหลัง นอกจากนั้นยังมีกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลอัสซาดมีสหรัฐอเมริกาและยุโรปสนับสนุนอยู่ด้านหลัง ในแต่ละกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ ต่างมีความสัมพันธ์สลับซับซ้อนระหว่างกลุ่มต่างๆและภายในกลุ่มเดียวกัน ลึกๆแล้วกลุ่มเหล่านี้พัฒนามาจากพวกเดียวกันที่เคยต่อต้านกลุ่มรัฐบาลอัสซาดมาก่อน มาแตกหน่อแตกกลุ่มกันสองปีกว่าที่ผ่านมา
ปัญหาใหญ่ในตอนนี้คือ รัสเซียและสหรัฐอเมริกาไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียอย่างไร ทั้งๆที่ทั้งสองประเทศต้องการที่จะขจัดกลุ่มหัวรุนแรงก่อการร้ายไอเอสเหมือนกัน รัสเซียเข้าข้างรัฐบาลอัสซาดเพราะเห็นว่า ผลประโยชน์อยู่ที่รัฐบาลอัสซาดเพราะให้ใช้พื้นที่ในประเทศในตั้งฐานทัพ สนับสนุนยุทธศาสตร์ในตะวันกลางของรัสเซีย ซึ่งถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของความขัดแย้งในตะวันออกกลางในปัจจุบัน แซงหน้าปัญหาปาเลสไตน์ เพราะสงครามซีเรียในช่วงห้าปีที่ผ่านมานั้น สร้างปัญหาใหญ่มากที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน คือการหลั่งไหลของผู้ลี้ภัยซีเรียมากกว่าครึ่งล้านคนเข้ามาไปในสมาชิกสหภาพยุโรป จนทำให้เกิดความขัดแย้งในเรื่องชาติพันธ์ระหว่างสมาชิกอียู
ประเด็นผู้ลี้ภัยซีเรียกลายเป็นปัญหาโลกที่ค่อนข้างวิกฤต สมาชิกองค์การสหประชาติต้องหยิบยกขึ้นมาและหาทางออกเพราะกรอบข้อตกลงยุติการสู้รบในซีเรียนั้นต้องล่มสลาย เนื่องจากกองกำลังของฝ่ายอยู่ข้างสหรัฐอเมริกาและรัสเซียไม่ยอมทำตามข้อตกลง
ประเด็นนี้ทำให้ไทยมีบทบาทเด่น มีประเด็นเข้ามาเสริมได้ ในการจัดการปัญหาเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย เพราะไทยมีประสบการณ์ในเรื่องความช่วยเหลือทางด้านมนุษยชนในเรื่องผู้ลี้ภัยทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจตลอดเวลาสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา คนไทยเองมักจะลืมไปแล้วว่า ไทยเคยเป็นที่พักพิงของผู้ลี้ภัยกัมพูชา เวียดนามและชาติอื่น มากว่าสามสิบกว่าประเทศ
นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้รับเชิญให้มาแชร์ความคิดที่มีประโยชน์ในการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยโลก โดยมีประธานาธิบดีโอบามาเป็นเจ้าของงาน ถือว่าเป็นงานชิ้นโบว์แดงสุดท้ายที่ต้องทำ อย่าลืม โอบามาเป็นผู้นำคนเดียวในโลกได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพก่อนที่จะมีผลงานมานำเสนอ จึงไม่แปลก ผู้นำคนนี้พยายามทำสิ่งที่ดีๆให้ชาวโลกและประชาคมโลกเพื่อให้สมเกียรติต่อรางวัลที่ได้รับ
ก่อนหน้านี้ผู้นำสหรัฐอเมริกาเพิกเฉยต่อไทยเพราะเหตุการณ์ยึดอำนาจสองปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี การที่นายกรัฐมนตรีไทยได้ปรากฎตัวเป็นแขกสหรัฐอเมริกาทำให้ฐานะไทยในเวทีการเมืองระหว่างประเทศดีขึ้น
ประเด็นสุดท้ายคือการพัฒนาอย่างหยั่งยืนซึ่งเป็นเรื่องไทยสามารถโชว์ฟอร์มได้เช่นกัน สามารถนำตัวอย่างดีในภูมิภาคเรามาแชร์กัน ไทยทำได้ในฐานะเป็นประธานกลุ่ม 77 ในยูเอ็น และยังเป็นผู้ประสานงานอาเซียนกับยูเอ็นในเรื่องนี้ ทำให้ไทยต้องทำการบ้านหนักเพื่อหาจุดร่วม และนโยบายที่สามารถเข้ากันได้ ใช้ทรัพยากรที่จัดให้เป็นประโยชน์และสามารถทำร่วมกันได้
JIM WATSON / AFP
