ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาโดนัลด์ ทรัมป์ มีการบ้านมากมายต้องทำในช่วง 70 วัน เตรียมเข้าร้บตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า ในช่วงหาเสียง ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างประเทศไว้มาก ส่วนใหญ่อย่างเสียๆ หายๆ โดยเฉพาะต่อประเทศในเอเชียมีทั้งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
เวลาหาเสียงทรัมป์มีสิทธิ์พูดอะไรก็ได้ เพื่อมุ่งเอาคะแนนเสียงจากคนอเมริกัน เขาจึงมุ่งโจมตีจีนต่างๆ นานาว่าขี้โกงและพยายามขโมยงานทำของคนอเมริกัน ตอนนี้จำเป็นต้องหาทางเยียวยาเพื่อปรับสัมพันธ์กับจีนให้ได้ก่อน ส่วนประเทศอื่นๆ จะตามมาที่หลัง
ความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องสำคัญใหญ่อันดับหนึ่งของทรัมป์เช่นกัน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชินโซ อาเบะ จะเดินทางหารือทรัมป์ด่วนที่กรุงวอชิงตันในอาทิตย์หน้าในเรื่องนี้ ทรัมป์เคยตอกย้ำว่าญี่ปุ่นต้องดูแลความมั่นคงของตัวเองมากขึ้น ประเด็นนี้รวมทั้งเกาหลีใต้ด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ภูมิภาคเอเชียจะมีลักษณะความร่วมมือด้านความมั่นคงในอนาคตที่แปลกออกไป
นอกจากนั้น ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือยังเป็นความกังวลของประเทศในเอเชีย ลึกๆ ทุกประเทศเกรงว่าเกาหลีเหนืออาจจะเปิดศึกสงครามนิวเคลียร์ ในขณะที่ทั่วโลกยังสับสนพยายามทำความเข้าใจกับผลการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา
ส่วนประเด็นกรอบการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก (Trans Pacific Partnership) หรือทีพีพี ทรัมป์พูดชัดว่าไม่เอาด้วย จะยกเลิก ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ความหน้าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกาจะถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ขณะนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นพยายามเป็นอย่างยิ่งในการผลักดันให้รัฐสภาผ่านรับรองกรอบการค้านี้โดยเร็ว
นโยบายต่ออาเซียนคงต้องปรับกันเยอะ ทรัมป์คงไม่ยอมรับเอานโยบายของประธานาธิบดีบารัค โอบามาทั้งชุด ถึงแม้มีนโยบาบดีๆ มากมายให้ทำต่อ โดยเฉพาะประเด็นการติดต่อกับคนหนุ่มสาวในภูมิภาคที่ถือได้ว่าเป็นนโยบายเหรียญทองของโอบามา
ต้องชมโอบามาที่ได้เสริมสร้างสัมพันธ์กับอาเซียนให้แน่นแฟ้นเป็นอย่างดีในช่วง8 ปีที่ผ่านมา ทั้งส่วนตัวและระหว่างรัฐต่อรัฐ มาประชุมอาเซียนมากกว่าผู้นำสหรัฐอเมริกาคนอื่นๆ ถึง 7 ครั้ง พบผู้นำอาเซียน 11 ครั้ง
ส่วนไทยกับสหรัฐอเมริกาสัมพันธ์ทั่วๆ ไปคงไม่ถูกกระทบกระเทือนเท่าไร เพราะทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีนโยบายต่อไทยที่คล้ายๆ กัน ผลดี คือ บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลชุดนี้ที่มีทัศนะคติที่ไม่ดีต่อไทยอาจจะถูกย้าย ทำให้มีการพิจารราท่าทีใหม่สหรัฐอเมริกาต่อไทย ยกตัวอย่าง อดีตทูตสหรัฐอเมริกาประจำไทยผู้อื้อฉาว นางคริสตี้ เค็นนี่ คงถูกย้ายแน่นอน
ส่วนประเด็นการค้าและความมั่นคงต้องรอดูก่อนว่าใครจะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศและทีมงานต่างประเทศเกี่ยวกับเอเชีย มีหลายประเด็นที่ท้าท้ายอยู่
AFP Photo