"นอกจากไอเดียหรือมุมกล้องแล้ว การเลือกอุปกรณ์ถ่ายภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะความคิดนั้นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด กล้องและเลนส์ต้องตอบสนองตรงนี้ให้ได้ โดยเฉพาะงานแต่งงาน ช่างภาพต้องถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของบ่าวสาวและคนในงานออกมาให้มากที่สุด" ช่างภาพ Wedding ชื่อดัง บอกเล่าประสบการณ์จริงในฐานะช่างภาพงานแต่งงานที่ได้รับความไว้วางใจจากดาราและเซเลบหลายต่อหลายคน
ผมใช้ EOS R กล้อง Mirrorless Full Frame รุ่นแรกจาก Canon ไปเทสในงานจริงเลย EOS R ตัวนี้เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของกล้องถ่ายภาพทีเดียว... ปกติเราคุ้นเคยกับ DSLR ที่มีกระจกสะท้อนจริงจากเลนส์ ขณะที่ตัวนี้เป็นแบบ Mirrorless แต่ก็ถือว่าตอบโจทย์การทำงานของผมในสายช่างภาพ Wedding
ข้อดีข้อแรกเลยของกล้อง คือ EOS R บอดี้เล็ก เบา ถือง่าย ลองคิดดูว่างานแต่งงานต้องสะพายกล้องตลอดอย่างต่ำก็ 6 ชั่วโมง แล้วสะพายถึง 3 ตัว จะเป็นน้ำหนักที่เยอะขนาดไหน ดังนั้น การออกแบบกล้องให้มีน้ำหนักเบา ทำให้ไม่เมื่อย ไม่เหนื่อยล้า เวลาถ่ายภาพนานๆ และการที่กล้องมีน้ำหนักเบา ทำให้เราใช้ Gimbal ขนาดเล็กได้ งานคล่องตัวขึ้น ไม่เกะกะ
ข้อสองคือ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ Canon ใส่เข้ามาในกล้อง EOS R ตัวนี้ ทำให้การโฟกัสแม่นยำยิ่งขึ้น จากปกติที่กล้อง Canon ทำได้แม่นยำอยู่แล้ว แต่เมื่อเอาไฟล์ภาพมาเปรียบเทียบกัน เห็นได้ชัดเลยว่า ไฟล์ภาพจาก EOS R ให้ความคมชัดและความแม่นยำที่ดีกว่า
สำหรับข้อสี่เป็นเรื่อง Skin Tone ปกติกล้อง Canon เรียกว่ามีชื่อเสียงไม่เป็นรองใคร โดยเฉพาะ EOS R ได้รับการพัฒนาให้มีค่า Dynamic range ที่ดี ทำให้เวลาเกลี่ยสีผิวค่อยๆ ไล่โทนไปได้ดีมากขึ้น และด้วยตัวเลนส์กับเซนเซอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ทำให้เม็ดสีในแต่ละพิกเซลบรรจุข้อมูลอยู่ค่อนข้างกว้าง การที่เราจะดึงไปทางไหนทำได้ง่าย และก็มีความละเอียดมากขึ้น
คุณสมบัติของกล้อง EOS R ที่อยากพูดถึงอีกข้อ ก็คือ เรื่องวิดีโอ มีการนำฟีเจอร์ Canon Log (C Log) ใส่ลงไปใน EOS R ด้วย ปกติ C Log จะอยู่ในกล้องตระกูล Cinema EOS ที่มีราคาสูงมากๆ คุณสมบัตินี้ จะให้โปรไฟล์ที่ค่อนข้าง Flat และยืดหยุ่นมาก เป็นประโยชน์ต่อการถ่ายภาพ Outdoor เช่น เราถ่ายภาพคนได้พอดีแล้ว แต่เมฆ Burn หรือว่าในเงามืดแต่ตรงจุดสว่างมัน Burn อะไรอย่างนี้ ฟีเจอร์ C Log ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ดี ทำให้ไฟล์ภาพยืดหยุ่นมากขึ้น
