วิธีเลือกซื้อ iPhone12 Series


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลายๆคนคงทราบดีกว่าปีนี้ Apple ได้เปิดตัว iPhone 12 ทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ทำให้ในปีนี้หลายๆ คนอาจจะตัดสินใจได้ยากขึ้นว่าจะซื้อรุ่นไหนดีวันนี้พงเลยมีบทความง่ายๆที่จะช่วยให้หลายๆคนตัดสินใจได้ตรงจุดมากขึ้น เรามาเริ่มกันจากโทรศัพท์เครื่องเล็กๆอย่าง iPhone 12 mini กันดีกว่า iPhone 12 จะหมาะกับคนที่ชื่นชอบโทรศัพท์จอเล็กพกพาง่าย เน้นการใช้งานแค่การสื่อสารเบาๆ

Apple เปิดตัว AirPods Pro ใหม่ในรูปแบบ In-Ear

ต่อมาที่ iPhone 12 ตัวธรรมดา ซึ่งน่าจะเป็นตัวที่จะได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากตอบโจทย์ของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน สเปคต่างไม่ต่างจากตัว iPhone 12 mini เลยแม้แต่นิดเดียว จะต่างกันแค่ขนาดหน้าจอและขนาดของแบตเตอร์รี่ หมายความว่าการใช้งานหลักๆที่ต่างกันก็จะเป็นขนาดของหน้าจอซึ่งส่งผลในการรับชมคอนเท้นต์หรือข้อมูลต่างๆ และระยะเวลาใช้งาน ซึ่ง iPhone 12 น่าจะถูกใจคนส่วนใหญ่ได้ง่ายกว่า

Apple เปิดตัว Iphone12 ปรับโฉมใหม่พร้อมสเปคกล้องขั้นเทพ รองรับ 5G

โดยรวมแล้วจากที่ผมได้ลองใช้ iPhone 12 มาเป็นเวลาสองอาทิตย์ทำให้ผมคิดว่า iPhone 12 ก็น่าจะเป็นโทรศัพท์รุ่นที่ขายดีที่สุดในโลกในปี 2021 นี้เหมือนกับที่ iPhone 11 ทำได้ในปี 2020 นั่นเอง ด้วยความที่ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่เบากว่า iPhone 11 ถึง 32 กรัม ทำให้ iPhone 12 เป็นโทรศัพท์ที่จอใหญ่เกิน 6 นิ้วแต่มีน้ำหนักเบามากๆ ทำให้เวลาใช้งานนานๆไม่เป็นภาระต่อข้อนิ้วและข้อมือมากเหมือนรุ่นก่อนๆ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้ผมชื่นชอบ iPhone 12 มากๆ

ส่วนเรื่องกล้องต้องบอกในเวลาที่แสงเพียงพอ iPhone 12 ไม่ได้ดีไปกว่า iPhone 11 เท่าไหร่ แต่พอเป็นสถณการณ์ที่แสงน้อยๆ iPhone 12 ทำได้เก่งกว่ามาก เรียกว่าทิ้งห่างกันไปเยอะเลย

เนื่องจากกล้องหน้าของ iPhone12 และกล้อง Ultra Wide ของ iPhone 12 ได้รับความสามารถ Night Mode มาด้วย แต่ในตัว iPhone 11 จะมีแค่เลนส์หลัก หรือพูดง่ายๆว่า iPhone 12 Series จะถ่าย Night Mode ได้ครบทุกเลนส์ทุกระยะไม่ว่าจะเป็นรุ่นย่อยตัวไหนก็สามารถใช้ได้ครบเหมือนกันทั้งหมด (ภาพบน iPhone 11 Pro VS ภาพล่าง iPhone 12) ส่วนเรื่องหน้าจอคราวนี้ iPhone 12 ให้มาเป็นหน้าจอแบบ OLED ที่เมื่อก่อนจะมีแต่ตัว Pro เท่านั้น ทำให้สีสันและความสว่างทำได้ดีขึ้นมาก

รวมถึงความละเอียดก็สูงขึ้นมาเท่ากับ iPhone 12 Pro ด้วยเช่นเดียวกัน ส่งผลให้รับชมความบรรเทิงและรับชมคอนเท้นต์ต่างๆทำได้ดียิ่งขึ้น ส่วนเรื่องอื่นๆต้องบอกว่า iPhone 12 ทำได้ดีเหมือนกับ iPhone รุ่นก่อนๆหรือดีกว่าทั้งหมด จะมีแค่ราคาที่เขยิบขึ้นมาจาก iPhone 11 อยู่พอสมควร โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 29,900 สำหรับความจุ 64GB และ 25,900 สำหรับรุ่น iPhone 12 mini ความจุ 64GB เช่นเดียวกัน

ส่วนรุ่น iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ก็เป็นรุ่นที่เพิ่มความพรีเมี่ยมมาทั้งตัวเครื่องและความเก่งกาจในด้านภาพนิ่งและวีดีโอ โดยราคาสำหรับสองรุ่นย่อยนี้ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 36,900 สำหรับ iPhone 12 Pro ในความจุ 128GB และ 39,900 สำหรับ iPhone 12 Pro Max ในความจุ 128GB เช่นเดียวกัน

ซึ่งสิ่งที่ได้เพิ่มมาจาก iPhone 12 ก็จะได้ความสวยงามของตัวเครื่องที่พรีเมี่ยมมากขึ้นจากที่ iPhone 12 ใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม ก็จะขยับมาใช้สแตนเลสสตีลขัดเงาแบบพิเศษ นอกจากนี้กระจกด้านหลังของตัว Pro ทั้งสองรุ่นย่อยก็จะมีการเคลือบด้วยสารพิเศษชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสารประกอบที่มีส่วนผสมของเซรามิคเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเครื่องมากกว่าตัว iPhone 12 ธรรมดา แต่ก็จะต้องแลกมาด้วยน้ำหนักตัวเครื่องที่มากกว่าเดิม นอกจากนี้ความแตกต่างของ iPhone 12 Pro ในรุ่นย่อยสองรุ่นนี้ นอกจากความต่างกันในเรื่องของขนาดหน้าจอและแบตเตอร์รี่แล้ว เหมือนคราวนี้ Apple ตั้งใจจะขายตัว iPhone 12 Pro Max มากกว่า เนื่องจาก iPhone 12 Pro Max มีเซ็นเซอร์ของกล้องที่ใหญ่กว่าและดีกว่าตัว Pro ธรรมดา

นอกจากนี้ยังมีการใส่ระบบกันสั่นแบบใหม่เข้าไปให้ด้วย ซึ่งจะเป็นการกันสั่นที่ตัวเซ็นเซอร์ ไม่เหมือนกับไอโฟนรุ่นอื่นๆซึจะเป็นระบบกันสั่นที่ตัวชิ้นเลนส์ ซึ่งพอเทคโนโลยีสองอย่างนี้ทำงานร่วมกันก็จะทำให้ iPhone 12 Pro Max ถ่ายรูปและวีดีโอได้ดีกว่า iPhone ทุกรุ่นที่เคยมีมา และ iPhone 12 Pro ทั้งสองรุ่นก็จะมีแรมที่มากกว่า iPhone 12 อีกนิดนึง ซึ่งมีมากกว่าไว้เพื่อใช้งานกับ เซ็นเซอร์พิเศษที่ชื่อว่า LiDar ซึ่งจะทำงานร่วมกับเลนส์เทเลโฟโต้ ซึ่งเซ็นเซอร์ LiDar และเลนส์เทเลโฟโต้จะไม่มีใน iPhone 12 และ iPhone 12 mini ซึ่งจากทั้งหมดแล้ว ผมคิดว่าในปีนี้ iPhone 12 Series ถูกแบ่งตลาดไว้ได้ชัดเจนมาก

เริ่มจาก iPhone 12 mini เหมาะกับคนที่ชอบโทรศัพท์จอเล็กๆ พกง่ายๆ น้ำหนักเบาๆ มีกล้องที่ไว้ใจได้ ไม่ได้ใชงานหนักหนาอะไร ส่วน iPhone 12 ตัวธรรมดา จะเป็นตัวที่คุ้มค่ามากที่สุดในสี่รุ่นย่อยนี้ คือมีจอที่ใหญ่และน้ำหนักก็ยังเบา พกพาง่าย แต่ยังคงมีแบตเตอร์รี่ที่ใช้งานได้หมดวันหากไม่ได้เอาไปเล่นเกม และก็ยังมีกล้องที่ดีมากๆพร้อมถ่ายได้ในทุกสภาพแสง

ส่วน iPhone 12 Pro ตัวธรรมดา ก็จะเหมาะกับคนที่อยากได้ภาพลักษณ์แบบโปร แต่ไม่ได้ต้องการความสุดของเทคโนโลยีของ Apple ในปีนี้ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า ถ้าดูความสามารถเทียบกับราคา ตัว iPhone 12 Pro จะมีความคุ้มค่าน้อยกว่าตัว iPhone 12 Pro Max เพราะตัว Pro Max มีความเก่งกาจกว่าทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ แต่ iPhone 12 Pro ตัวธรรมดาก็คงเหมาะกับคนอีกลุ่มที่ต้องการความสามารถของกล้องเทเลโฟโต้และเซ็นเซอร์ LiDar ที่ไม่ชอบความใหญ่และน้ำหนักที่มากของตัว Pro Max

และรุ่นย่อยสุดท้าย iPhone 12 Pro Max ก็สรุปได้สั้นๆว่าถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับมือโปร แต่ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักก็มากถึง 226 กรัม

สุดท้ายคือ iPhone 12 รองรับระบบ 5G ทุกรุ่นย่อยจึงไม่ใช่ปัจจัยที่เราจะนำมาช่วยตัดสินใจว่าจะเลือกรุ่นไหน พงก็หวังว่าคนที่เข้ามาอ่านน่าจะได้เลือก iPhone 12 ได้ง่ายและตรงกับการใช้งานมากขึ้น และถ้าหากอยากดูรีวิว iPhone 12 ของพง สามารถเข้าไปดูได้ที่ : https://youtu.be/cTpPF-NHIrE

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณพง ช่อง SUPERTOMMO

เปิด "นวัตกรรมใหม่" ตามสไตล์แอปเปิ้ลกับ "ราคาที่ถูกลง"

TOP ไอที
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ