ประธานาธิบดี จาร์เอียร์ บอลโซลนาโร ผู้นำบราซิลใช้อำนาจฝ่ายบริหารประกาศกฎหมายที่ให้กองทัพส่งทหารไปยังเขตป่าสงวน พื้นที่ของชาวพื้นเมือง และ แนวชายแดนในภูมิภาคที่ตั้งของป่าแอมะซอน เพื่อสนับสนุนภารกิจดับไฟป่า
โดยการใช้กำลังทหารเพื่อดับไฟป่าแอมะซอนจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ว่าราชการแต่ละภูมิภาค ที่สามารถขอให้ทหารปฏิบัติภารกิจป้องกันปราบปรามการกระทำผิดด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสำรวจและดับไฟ ที่กระจายทั่วพื้นที่ป่าแอมะซอน
ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะทำหน้าที่กำกับการปฏิบัติตามคำสั่งและจัดสรรทรัพยากรเพื่อดับไฟในพื้นที่ป่าแอมะซอน โดยกฎหมายฉบับนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 เดือน ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 24 ก.ย
ขณะที่ฝรั่งเศสและไอร์แลนด์ เตือนว่าจะไม่ลงนามในสัตยาบรรณรับรองเขตตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรป และ 4 ชาติอเมริกาใต้ คือ บราซิล อาร์เจนตา ปารากวัย และ อุรุกวัย หากบราซิลยังไม่มีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อดับไฟป่าแอมะซอน เช่นเดียวกับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฟินแลน์เรียกร้องสหภาพยุโรปสั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากบราซิล
สำหรับป่าแอมะซอนเป็นป่าฝนเขตร้อนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีบทบาทสำคัญต่อการชะลอปัญหาโลกร้อน เนื่องจากเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอน สำคัญและผลิตอ็อกซิเจนมากถึง 20 เปอร์เซนตื ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นปอดของโลก
นอกจากนี้ ป่าแอมะซอนยังเป็นถิ่นอาศัยของพืชและสัตว์รวมกันกว่า 3 ล้านสายพันธุ์ รวมทั้งชนเผ่าพื้นเมืองอีกประมาณ 1 ล้านคน