วันนี้ 26 ส.ค. 2562 น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีกระแสยุบพรรคอนาคตใหม่ที่มีการตั้งข้อสังเกตและเชื่อมโยงกับกรณีของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่แจ้งขอยกเลิกพรรคตัวเอง ว่าอาจจะเป็นการเสีย 1 แลก 40 ว่า ตนขอยืนยันว่าในบรรดาทุกคดีความที่มีต่อพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีคดีใดเลยที่มีมูลฐานทางกฎหมายเพียงพอถึงขั้นยุบพรรคได้ มีเพียงคดีเดียวที่เข้าข่ายมากที่สุด หรือ คดี “อิลูมินาติ” ที่มีการกล่าวหาว่าพรรคและกรรมการบริหารมีการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าพรรคอนาคตใหม่มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายจริง ก็ไม่มีอำนาจใดที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ได้ แต่ได้เพียงสั่งให้ยุติการกระทำที่เข้าข่ายได้เท่านั้น เพราะฉะนั้นการตั้งข้อสังเกตเรื่องการยุบพรรคเป็นเพียงการลือกันไปโดยไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย
“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.ยุบ “อนาคตใหม่”
ส่วนกรณีว่าจะต้องมีการคำนวนปาร์ตี้ลิสต์ใหม่หรือไม่ รัฐธรรมนูญระบุชัดเจน ว่าหากมีการยุบพรรคโดยคำสั่งศาล ส.ส.จะต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 60 วัน เพราะฉะนั้นหากเกิดกรณีที่เลวร้ายที่สุดจริงๆคือการยุบพรรค ก็เป็นความรับผิดชอบของพรรคอนาคตใหม่ที่จะหาพรรคให้ ส.ส.ทุกคนได้สังกัด
ส่วนกรณีที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางส่วนที่ออกมาตอกย้ำข่าวลือดังกล่าวด้วยนั้น น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่าในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มีภารกิจมากมายรออยู่ข้างหน้า แทนที่จะเป็นห่วงว่าเพื่อนบ้านจะถูกปล้นหรือตัวเองจะถูกปล้น อยากให้เรามาร่วมกันป้องปรามโจรที่จะปล้นประเทศชาติและประชาชนดีกว่า นี่คือภาระใหญ่ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านควรจะทุ่มเทสรรพกำลังไปทำงานร่วมกันมากกว่า โดยเฉพาะในการอภิปรายนายกฯ ที่จะมาถึงในเร็วๆนี้
“ทาทา ยัง” โพสต์ขอโทษ ยันไม่เคยสนับสนุนความรุนแรง