การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบททดสอบทางการเมืองที่สำคัญของนายกรัฐมนตรีแองเกล่า แมร์เคิ่ล เพราะนโยบายเปิดประตูรับผู้ลี้ภัยของเธอจะทำให้พรรคขวาจัดซึ่งมีแนวทางต้านมุสลิมและผู้อพยพ กลับเข้าสภาได้เป็นครั้งแรกหลังจากการพ่ายแพ้ของนาซีในปี 1945 ซึ่งเป็นปีที่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับการออกไปลงคะแนนของประชาชนในกรุงเบอร์ลินเมืองหลวง การลงคะแนนจะมีไปถึงเวลา 6 โมงเย็นตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกหลังจากการเปิดประตูรับผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ของเยอรมนีเมือ 2 ปีที่ผ่านมา
สำหรับประเด็นนี้ทำให้พรรคฝ่ายขวาจัดอย่าง AFD ซึ่งเพิ่งจะก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 5 ปีที่แล้วหยิบมาเล่นเป็นประเด็นหาเสียง และคาดว่าจะได้เก้าอี้เป็นลำดับที่สามรองจากพรรคใหญ่อย่าง CDU ของนายกรัฐมนตรีแองเกล่า เมเคิ่ล และพรรคโซเชียล เดโมแครต หรือ SPD ที่ตอนนี้นำโดยมาร์ติน ชูส์ อดีตประธานสภาสหภาพยุโรป
ผู้สมัครของพรรคขวาจัด AfD ยืนยันว่าหากได้รับเลือกตั้งสิ่งแรกที่จะทำคือ ยุติหรือทบทวนแผนการการรับผู้อพยพ เพราะจำนวนที่ทะลักเข้ามาเกือบ 2 ล้านคนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้นมากเกินกว่าที่เยอรมนีจะดูแลได้
การคาดว่า AfD อาจได้เสียงมากถึงร้อยละ 13 ทำให้มีความกังวลอย่างกว้างขวางจากการที่เราติดตามจากสื่อท้องถิ่น มีการออกมารณรงค์ไม่ให้เลือกพรรคนี้จากทั้งนักการเมืองและคนทั่วไป มีการออกมากระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ของมาใช้สิทธิ์เพื่อสกัดพรรคนี้ มีการรายงานจากสื่อท้องถิ่นด้วยว่ากระแสความนิยมของพรรคฝ่ายขวามีมากในฝั่งที่เคยเป็นเยอรมันตะวันออกซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรีเมเคิ่ล
การลงคะแนนจะมีไปจนถึงเวลา 6 โมงเย็นตามเวลาท้องถิ่นหรือตรงกับเที่ยงคืนตามเวลาประเทศไทย ผลอย่างไม่เป็นทางการอาจจะรู้ได้ภายใน 2 ชั่วโมงหลังปิดหีบ เพราะฉะนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะทราบว่าพรรคฝ่ายขวาจัดจะสามารถฝ่าด่านเข้าสภาได้เป็นครั้งแรกหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองหรือไม่ และถ้าเข้ามาได้จะได้กี่ที่นั่ง ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นตัวแปรที่จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมไม่เฉพาะการเมืองของที่นี่แต่จะรวมถึงที่อื่นๆ ด้วย