ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจะมีการดำเนินการอย่างชัดเจนต่อกัมพูชา เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาที่กำลังจะมีขึ้นในปีหน้าจะไม่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม หลังจากที่เมื่อวานนี้ศาลฎีกากัมพูชาพิพากษายุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party หรือ CNRP) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ตามคำร้องของ นายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ซึ่งคำพิพากษาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการจับกุมตัว นาย เขม โสกา หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา ในข้อหาเป็นกบฎล้มล้างการปกครองโดยสมคบคิดกับสหรัฐฯ
นอกจากนี้ศาลยังตัดสิทธิ์ทางการเมืองสมาชิกพรรคดังกล่าวอีกนับ 100 คน เป็นเวลา 5 ปี ทำให้พรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซนจะลงสนามเลือกตั้งในปีหน้าโดยไร้คู่แข่งสำคัญ โดยมาตรการแรกที่สหรัฐฯจะนำมาใช้ คือยุติการช่วยเหลือคณะกรรมการการเลือกตั้งของกัมพูชา ส่วนที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติเรียกร้องกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาอายัดทรัพย์และใช้คำสั่งห้ามเดินทางกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิ์
เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป ที่ระบุว่าว่าการเลือกตั้งที่ไม่มีฝ่ายค้านลงแข่งขันด้วยคือการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม พร้อมเตือนว่าการเคารพสิทธิมนุษยชนคือสิ่งสำคัญที่สุดที่มีผลต่อสิทธิพิเศษทางการค้าที่สหภาพยุโรปมอบให้กับกัมพูชา ขณะที่องค์กรสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมน ไนท์ วอทช์ คาดว่าคำพิพากษายุบพรรคกอบกู้ชาติกัมพูชาจะทำให้ประเทศผู้บริจาคหรือคู่ค้าของกัมพูชาใช้มาตราการลงโทษแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะรวมถึงการอายัดทรัพย์สินในต่างประเทศและการออกคำสั่งห้ามเดินทางกับบุคคลใกล้ชิด นายกรัฐมนตรีฮุนเซน
ส่วนนาย มู โสชัว รองหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา ที่หนีไปต่างประเทศ เชื่อว่ามาตรการลงโทษกัมพูชาจะเป็นปัจจัยต่อรองที่ดีที่สุดในการเจรจากับรัฐบาลให้จัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ลงสนามแข่งขัน
ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามนายกรัฐมนตรีฮุนเซน วิจารณ์ว่าการยุบพรรคกอบกู้ชาติกัมพูชาคือการปล้นการเลือกตั้งและแสดงให้เห็นว่าประชาธิปไตยในกัมพูชาได้ตายไปแล้ว ขณะที่เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้ชี้แจงกับประชาชนผ่านโทรทัศน์ว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นตามกำหนดแน่นอน และยังเชิญชวนให้สมาชิกพรรคกอบกู้ชาติกัมพูชาที่ไม่ถูกตัดสิทธิ์ลงเลือกตั้งสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาชนกัมพูชาของตนเองด้วย
สำหรับสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯและสหภาพยุโรป ทำให้กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้าไปยังทั้ง 2 ตลาด โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯและสหภาพยุโรปมีสัดส่วนรวมกันถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา แต่คำขู่ของจากสหรัฐฯ และอียู อาจไม่ทำให้ ฮุนเซน กังวลมากนัก เพราะรัฐบาลจีนยังประกาศให้การสนับสนุนรัฐบาลต่อไป ซึ่งในปัจจุบัน จีนเป็นผู้บริจาคเงินรายใหญ่สุดให้กับกัมพูชา รวมทั้งเป็นประเทศที่มีการลงทุนมากเป็นอันดับ 1 ในกัมพูชา