จับ "หน่อแอะ มีมิ" คุมตัวลงจากบางกลอยบน

นายพชร คำชำนาญ ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ยืนยันจากปากคำชาวบ้านที่มีอยู่ 10 กว่าคนที่ถูกนำตัวจากบางกลอยบนลงมาอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตอนนี้ถูกควบคุมตัวอยู่และยังไม่อนุญาตให้เยี่ยมในจำนวนนี้มี นายหน่อแอะ มีมิ ลูกชายปู่คออี้ และหลาน รวมอยู่ด้วย

นายพชร กล่าวว่า จริง ๆ เรื่องความรุนแรง ไม่ใช่เรื่องการใช้กำลังอย่างเดียว และเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการปฏิบัติการข้างบนเป็นอย่างไร แต่ยืนยันได้ คือ หน่อแอะไม่ยินยอมลงมาแน่นอนเพราะมีความพยายามอย่างน้อย 3 ครั้งให้ชาวบ้านลงมาแต่ล้มเหลวทั้ง 3 ครั้ง 

นายพชร กล่าวว่า สิ่งที่เป็นความรุนแรงอย่างหนึ่งคือการบังคับใช้กฎหมายซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่มีการแจ้งความดำเนินการกับพื้นที่แปลงที่ถางแล้ว 18 ไร่ เป็นคดีที่ไม่พบผู้กระทำผิด นำมาสู่วันนี้่ที่ควบคุมตัวลงมาคาดว่าจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ มาตรา 19 คือการถือครอง แผ้วถางที่ดินอุทยาน ระวางโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับตั้งแต่ 4 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาท 

"ตรงนี้เป็นความรุนแรงกับชาวบ้านมาก และอาจกระทบกระเทือนจิตใจหน่อแอะที่ลั่นวาจาไว้ว่าจะฆ่าตัวตายถ้าไม่สามารถกลับไปอยู่ในพื้นที่ดั้งเดิมได้" 

นายพชร บอกว่า มติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกระเหรี่ยงมีมาแล้ว 11 ปี แต่หน่วยงานที่มีปัญหามากที่สุดคือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยืนยันว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ จึงไม่นำนโยบายมาใช้ ส่วนชาวบ้านบางส่วนที่อยู่บางกลอยล่างก็ยังไม่ได้จัดสรรที่ดิน หรือมีแล้วแต่ทำกินไม่ได้

"เท่าที่ผ่านมา 25 ปีแล้วที่เขายอมเชื่อเจ้าหน้าที่รอจัดสรรพื้นที่เพื่อทำไร่หมุนเวียนในพื้นที่ข้างล่าง แต่ยังไม่มีที่ดินทำกินเลย ส่วนพื้นที่ที่ชาวบ้านขึ้นไปทำกินก็เป็นพื้นที่การเกษตร ไม่ใช่พื้นที่ป่า ถ้าตามข้อเรียกร้องคิดว่าควรมีการพิสูจน์กันไปเลย แต่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาเก็บข้อมูลก็ทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่งเพราะเกิดปฏิบัติการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชรขึ้น"

นายพชร บอกว่า เดิมข้างบนมีชาวบ้านอยู่ 36 ครัวเรือน 70 คนตั้งแต่ช่วงแรกที่อพยพขึ้นไปจนมีช่วงปฏิบัติการยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชรเมื่อ 22-23 ก.พ. ซึ่งช่วงนั้นมีชาวบ้านอยู่ 34 คน นำลงมาได้ 13 คน เหลือ 21 คน หลังจากนั้นก็มีชาวบ้านขึ้นไปสมทบอีก 38 คน รวมเป็น 59 คน หลังจากนั้นมีชาวบ้านอีก 20 คนขึ้นไปสมทบอีก เพราะยังมีปฏิบัติการเจ้าหน้าที่อยู่เรื่อย ๆ ตอนนี้มีชาวบ้านประมาณ 70 คน