“โรนัลโด้” เผยไม่ห่วงอาการบาดเจ็บ ชี้จะดีขึ้นใน 2 อาทิตย์
“โรนัลโด้” ซัดลูกที่ 99 ในทีมชาตินำโปรตุเกสตีตั๋วยูโร
เกมที่สนามสต๊าด โจซีย์ บาร์เทล เป็น โปรตุเกส ที่ต้องการ 3 คะแนนเพื่อการันตีการเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายเป็นฝ่ายบุกอยู่ฝ่ายเดียว ก่อนจะบุกไปเอาชนะ 2-0 โดยได้ประตูจาก บรูโน่ แฟร์นันเดซ ในนาทีที่ 39 และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่มายิงประตูที่ 99 ในนามทีมชาติ ในนาทีที่ 86 ช่วยให้ โปรตุเกส เก็บเพิ่มเป็น 17 คะแนน จบรอบคัดเลือกด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มบี และกลายเป็นชาติที่ 17 ที่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ
นอกจากนี้ประตูในเกมกับ ลักเซมเบิร์ก ยังทำให้ปี 2019 เป็นปีที่ โรนัลโด้ ยิงประตูให้กับทีมชาติโปรตุเกสมากที่สุด นับตั้งแต่ติดทีมชาติครั้งแรกในปี 2003 หลังยิงไป 14 ประตู จากการลงสนาม 10 นัด ทำลายสถิติเดิมในปี 2016 ที่เขาพาโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโร ด้วยการยิงไป 13 ประตู จาก 13 นัดลงได้ และเหลืออีกเพียง 10 ประตูเท่านั้น โรนัลโด้ จะทำสถิติเทียบเท่า อาลี ดาอี อดีตตำนานกองหน้าทีมชาติอิหร่าน ในการเป็นนักเตะที่ยิงให้ทีมชาติมากที่สุดตลอดกาลของโลกด้วย
สรุป 14 ประตูที่ โรนัลโด้ ยิงให้ โปรตุเกส ในปี 2019
ยิง 3 ประตู : ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-1 (เนชั่นส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ)
ยิง 1 ประตู : ชนะ เซอร์เบีย 4-2 (ยูโร 2020 รอบคัดเลือก)
ยิง 4 ประตู : ชนะ ลิทัวเนีย 5-1 (ยูโร 2020 รอบคัดเลือก)
ยิง 1 ประตู : ชนะ ลักเซมเบิร์ก 3-0 (ยูโร 2020 รอบคัดเลือก)
ยิง 1 ประตู : แพ้ ยูเครน 1-2 (ยูโร 2020 รอบคัดเลือก)
ยิง 3 ประตู : ชนะ ลิทัวเนีย 6-0 (ยูโร 2020 รอบคัดเลือก)
ยิง 1 ประตู : ชนะ ลักเซมเบิร์ก 2-0 (ยูโร 2020 รอบคัดเลือก)
โดยหลังเกม โรนัลโด้ ยังได้ออกมาสยบข่าวลือที่บอกว่า เขา กับ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือยูเวนตุส มีปัญหากันว่า มันคงมาจากการที่เขาโดนเปลี่ยนตัวออกแล้วแสดงอาการหงุดหงิด ซึ่งจริงๆ แล้วเขาไม่ชอบถูกเปลี่ยนตัวออก เพราะต้องการอยากช่วยทีมให้ถึงที่สุด แต่ด้วยฟอร์มแบบนั้น ซาร์รี่ ก็ทำถูกแล้ว ที่เปลี่ยนตัวเขาออกเพราะสภาพร่างกายก็ไม่สมบูรณ์ รวมถึงยังเล่นได้ไม่ดีอีกด้วย
