ฉายาคนกีฬาปี 2019 “เจ้าอุ้ม” ฉายา “บุญมาทัน ผงาดเจลีก” - “บิ๊กเน” ฉายา “แห้วทุกถ้วย ช่วยไม่ได้”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ทำการตั้งฉายา “คนกีฬา” ประจำปี 2019 ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา

โดยในปี 2019 มีบุคคลในวงการกีฬาที่ได้รับฉายาทั้งหมด 12 คน เริ่มจาก “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายทีมชาติไทย ได้รับฉายาว่า “บุญมาทัน ผงาดเจลีก” หลังสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เจลีก กับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส จนทำให้ยอดทีมจากเจลีก ตัดสินใจทุ่มเงิน 35 ล้านบาท ซื้อขาดจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปเป็นที่เรียบร้อย

“มารินอส” ประกาศซื้อขาด “ธีราทร” ร่วมทีม

ขณะที่ “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้รับฉายา “แห้วทุกถ้วย ช่วยไม่ได้” หลังก่อนเปิดฤดูกาล 2019 “บิ๊กเน” ได้ประกาศจะนำ บุรีรัมย์ กวาด 3 แชมป์ในประเทศ แต่สุดท้ายต้องจบฤดูกาลด้วยมือเปล่าครั้งแรกในรอบ 8 ปี

"ลุงเนวิน"โพสต์รัวๆ หลังบุรีรัมย์ ชวดแชมป์ไทยลีก

ส่วน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับฉายาว่า “บริหารล้ำหน้า ผลงานล้าหลัง” เนื่องจาก “บิ๊กอ๊อด” บริหารจัดการสมาคมฯ ฟุตบอลได้เป็นอย่างดี โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ แต่ในทางกลับกันผลงานทีมชาติไทยในยุคของ “บิ๊กอ๊อด” กลับถูกมองว่า ล้มเหลว ทั้งทีมชาติชุดใหญ่, ทีมยู-23 ที่ตกรอบแรกซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์, ทีมยู-19 ที่แพ้ กัมพูชา-มาเลเซีย จนต้องรอบคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รวมถึงแทบจะโดน เวียดนาม แซงไปเป็นเจ้าอาเซียนเป็นที่เรียบร้อย 

ด้าน อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทยชาวญี่ปุ่น ได้รับฉายา “ซามูไรพลาสติก” เพราะมีโปรไฟล์สุดหรูก่อนมาคุมทีมชาติไทย ทั้งเคยนำทีมชาติญี่ปุ่นไปลุยฟุตบอลโลก 2018 รวมถึงนำ กัมบะ โอซาก้า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเจลีก แต่เมื่อมาคุมทีมชาติไทยจริงๆ เจ้าตัวกลับทำผลงานได้ไม่ดี โดยเฉพาะการนำทัพ “ช้างศึกยู-23” ตกรอบแรกฟุตบอลซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา 

สำหรับ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “อัส” นภิศ ต่อตั้งพานิช คู่รักนักกีฬา ได้รับฉายา “คู่กั๊กเหรียญทอง” เนื่องจากถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นกำลังใจให้กันและกันโดยตลอด เมื่ออีกฝ่ายลงแข่งขัน แต่เมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์ทั้งคู่กลับไม่เคยตอบคำถามแบบชัดเจนเลยว่า ทั้งคู่คบกัน แม้จะมีโมเมนต์ความหวานในโลกโซเซียลให้แฟนกีฬาได้เห็นอยู่ตลอดก็ตาม

ต่อมา คีริน ตันติเวทย์ นักวิ่งลูกครึ่งไทย-อเมริกันเจ้าของ 2 เหรียญทองซีเกมส์ ได้รับฉายา “วิ่งเพื่อชาติ ฮาร์วาร์ดรอหน่อย” เนื่องจากก่อนที่ คีริน จะเดินทางมาคว้า 2 เหรียญทองในซีเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ ทั้งในการวิ่ง 5,000 เมตร และ 10,000 เมตรชาย โปรแกรมการแข่งขันในประเภท 10,000 เมตร ไปตรงกับตารางที่ คีริน จะต้องสอบที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด พอดี แต่สุดท้าย สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย รวมถึงอาจารย์ของ คีริน ได้ช่วยเหลือให้เจ้าตัวสามารถเลื่อนสอบได้สำเร็จ แต่หลังคว้าเหรียญทองเจ้าตัวก็ต้องเดินทางกลับทันที โดยไม่ได้รับเหรียญ

ส่วนฉายาคนกีฬาอื่น ๆ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ได้รับฉายา “ไอโอซี 7-ELEVEN” เนื่องจากทำงานทั้งเป็น นายกสมาคมกีฬาแบดมินตัน และกรรมการโอลิมปิกสากล พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ได้รับฉายา “ซูเปอร์หมึก คึกกว่า 5 G” หลังบริหารงานได้อย่างรวดเร็วทันใจ

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรท่าเรือ ได้รับฉายา “สตรีเหล็กท่าเรือ” หลังทุ่มทั้งแรงกาย และทุนทรัพย์ ช่วยให้ ท่าเรือ คว้าแชมป์ช้าง เอฟเอคัพ รวมถึงจบอันดับ 3 ของไทยลีก

พล.ต.อินทรัตน์-นางบุษบา ยอดบางเตย ได้รับฉายา “ตา-ยาย พลังหมด” หลังไม่สามารถช่วยให้ทีมยกน้ำหนักไทยพ้นโทษแบน และลงแข่งขันในศึกชิงแชมป์โลก กับ ซีเกมส์ ได้เลยแม้แต่คนเดียว

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ได้รับฉายา “นักมวยข้าใครอย่าแตะ” เพราะดูแลนักมวยเป็นอย่างดีทั้งเรื่องการฝึกซ้อม เรื่องปัญหาครอบครัว เพราะอยากให้ทุกคนไม่มีปัญหาและมีสมาธิเต็มร้อยในการขึ้นชก

คนสุดท้าย จ.ส.อ.ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักมวยทีมชาติไทย ได้รับฉายา “กำปั้น 5 แถว” เพราะเจ้าตัวไปสักยันต์ 5 แถวกับ อ.หนู กันภัย เพื่อเสริมดวงชะตา ซึ่งหลังจากสัก “เจ้าสด” ก็สามารถคว้าเหรียญทองแดงมวยทหารโลก และคว้าเหรียทองซีเกมส์ได้ในทันที

 

TOP ข่าวกีฬา
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ