“โควิด-19” กระทบรถแห่ ลิเวอร์พูล
ย้อนกลับไปเกมนี้เมื่อปีก่อน เกมนี้ถือว่าเป็นงานหนักสำหรับ "หงส์แดง" เพราะนัดแรกไปพ่ายที่ คัมป์ นู มาถึง 0-3 หลายฝ่ายบอกว่าพวกเขาตกรอบไปแล้วตั้งแต่วันนั้น วันนี้ ลิเวอร์พูล ขาดทั้ง โม ซาลาห์ และ โรเบอร์โต ฟีร์มิโน่ ในแนวรุก ต้องส่ง เซอดาน ชากิรี่ และ ดิวอก โอริกี้ ลงสนามแทนยิ่งทำให้ความหวังจะเข้ารอบดูริบหรี่
แต่ผ่านไปเพียง 6 นาที กองหน้าที่แฟนบอลร้องยี้ “โอริกี้” ก็ยิงประตูให้เจ้าบ้านได้เฮไปก่อน 1-0 เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ ก่อนที่จุดเปลี่ยนที่แท้จริงจะมาถึง
เริ่มต้นครึ่งหลังคล็อปป์ต้องเปลี่ยนโรเบอร์สันออกเนื่องจากอาการบาดเจ็บ และส่ง จอร์จิโอ ไวด์นัลดุม ลงสนามแทน และโยกเจมส์ มิลเนอร์ไปเล่นแบ็คซ้าย และก็เป็นไวด์นัลดุมที่ทำหน้าที่ซุปเปอร์ซับซัด 2 ประตูให้ลิเวอร์พูลนำห่างเป็น 3-0 สกอร์รวม 3-3
ปิดท้ายลูกที่ส่งหงส์แดงเข้าชิง 2 ปีซ้อนจากจังหวะที่ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม เทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เหมือนจะเดินเปลี่ยนให้ชากิรี่มาเตะแทน แต่ด้วยไหวพริบเหลือบไปเห็นโอริกี้ว่างอยู่ บวกกับกองหลังบาร์ซ่าไม่ทันตั้งตัว เล่นเตะมุมเร็วเปิดเลียดไปที่โอริกี้ ก่อนจะเจ้าตัวจะยิงประตูที่ 2 ของตัวเอง พาลิเวอร์พูลเข้าชิงแชมป์เปี้ยนลีกแบบปาฎิหาริย์