“คล็อปป์”ไม่คอนเฟิร์ม “ติอาโก้” พร้อมบู๊ “อาแจ็กซ์"
“คล็อปป์” เผยข่าวดี “อลิสซอน” กลับมาซ้อมได้แล้ว
กัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นนักเตะเอาท์ฟิลด์ เพียงคนเดียวที่ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เกือบจะทุกนัดในเกมลีก ตั้งแต่ย้ายมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อปี 2018 และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำสถิติหลายอย่างติดท็อปทรีของ พรีเมียร์ลีก
ไล่ตั้งแต่สถิติคลีนชีตที่ทำเอาไว้ 43 นัด มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของพรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับ การปะทะชนะคูแข่ง ก็อยู่อันดับ 1 ที่ 74.4 เปอร์เซนต์ นอกจากนี้ยังอยู่อันดับ 2 ในการดวลลูกกลางอากาศชนะคู่แข่งที่ 74.6 เปอร์เซนต์ และค่าเฉลี่ยเสียประตู 1 ลูก ทุกๆ 111 นาที อยู่ในอันดับ 3
สถิติ “ฟาน ไดจ์ค” ในพรีเมียร์ลีก
สถิติ อันดับ (ในพรีเมียร์ฯ) นัด/เปอร์เซนต์/นาที
คลีนชีต 1 43 นัด
ปะทะชนะคู่แข่ง 1 74.4 %
ชนะดวลลูกโหม่ง 2 74.6 %
เฉลี่ยการเสียประตู 3 เสียประตูทุก 111 นาที
นอกจากนี้เวลาที่ ลิเวอร์พูล ไม่มีกองหลังวัย 29 ปีลงสนาม ก็จะด้อยประสิทธิภาพในเกมรับเป็นอย่างมาก โดยตั้งแต่ ฟาน ไดจ์ค ย้ายมา เซาธ์แฮมป์ตัน มีโอกาสลงสนามให้ทีมไป 130 นัด ทำให้ทีมมี เปอร์เซนต์ ชนะสูงถึง 70 เปอร์เซนต์ ค่าเฉลี่ยทำประตูอยู่ที่ 2.2 ลูกต่อเกม และเสียประตูเฉลี่ย 1 ลูกต่อนัดเท่านั้น
ส่วนในตอนที่ ลิเวอร์พูล ไม่มี ฟาน ไดจ์ค คุมแนวรับจำนวน 13 นัด เปอร์เซนต์ชนะของทีมก็จะลดลงไปเหลือแค่ 46 เปอร์เซนต์เท่านั้น และ ทำประตูเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7 ลูกต่อนัด และเสียประตู 1.5 ลูกต่อเกม
เปรียบเทียบ “ลิเวอร์พูล” ยาม “มี-ไม่มี” ฟาน ไดจ์ค
มี ฟาน ไดจ์ค ไม่มี ฟาน ไดจ์ค
130 ลงเล่น 13
91 ชนะ 6
20 เสมอ 4
19 แพ้ 3
2.2 ค่าเฉลี่ยทำประตู (ต่อเกม) 1.7
1 ค่าเฉลี่ยเสียประตู (ต่อเกม) 1.5
70 % เปอร์เซนต์ชนะ 46 %
ส่วนตัวแทนที่จะทำหน้าที่ตอนที่ ฟาน ไดจ์ค พักรักษาอาการบาดเจ็บ นอกจาก ฟาบินโญ่, โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป แล้ว แฟนบอล และบรรดาตำนานนักเตะของทีมต่างก็ยุให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปคว้าตัว ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสของ แอร์เบย์ ไลป์ซิก มาร่วมทีมในช่วงตลาดนักเตะรอบ 2 เดือน ม.ค. โดยมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 53 ล้านปอนด์