วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก "แดงเดือด" แมนยู พบ ลิเวอร์พูล 2 พ.ค.64


โดย PPTV Online

เผยแพร่




วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก "แดงเดือด" แมนยู พบ ลิเวอร์พูล

“แมนฯซิตี้” ตัวเต็งคว้า “เคน” ร่วมทัพซัมเมอร์นี้

ปรีวิวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แดงเดือด

อาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2564

(2) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล (6)

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด เวลาคิกออฟ :  22.30 น.

ผู้ตัดสิน :  ไมเคิล โอลิเวอร์

"อาร์เตต้า" มั่นใจมีลุ้นเข้ารอบนัดสอง

ผลงานการพบกันในฤดูกาลนี้

24 ม.ค.2564 :  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 ลิเวอร์พูล (เอฟเอ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย)

ประตู : 0-1 โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ น.18, 1-1 เมสัน กรีนวู้ด น.26,2-1 มาร์คัส แรชฟอร์ด น.48 2-2 โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ น.58,3-2 บรูโน่ แฟร์นันด์ส น.78

17 ม.ค.2564 : ลิเวอร์พูล 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  (พรีเมียร์ลีก)

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

29 เม.ย.2564        ชนะ โรม่า             6-2 (เหย้า) ยูโรป้า ลีก

25 เม.ย.2564        เสมอ ลีดส์           0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

18 เม.ย.2564        ชนะ เบิร์นลี่ย์        3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

15 เม.ย.2564        ชนะ กรานาด้า      2-0 (เหย้า) ยูโรป้า ลีก

11 เม.ย.2564        ชนะ สเปอร์ส        3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

สภาพทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ล่าสุดพาทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมรอบรองชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก นัดแรกด้วยการเปิดบ้านถล่ม โรม่า ทีมจาก เซเรีย อา ไป 6-2 จากการทำประตูของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และเอดินสัน คาวานี่ คนละ 2 ประตูบวกด้วย ปอล ป็อกบา และ เมสัน กรีนวู้ด เกมนี้เชื่อว่าเทรนเนอร์ชาวนอร์วีเจี้ยน น่าจะมีการปรับเปลี่ยน 2-3 ตำแหน่งเพื่อรักษา

ความสด ที่แน่ๆ จะไม่มี อองโตนี่ มาร์กซิยาล ศูนย์หน้าซึ่งบาดเจ็บจากการไปเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศส และอาจกลับมาไม่ได้แล้วในฤดูกาลนี้ รวมถึง ฟิล โจนส์ ที่เจ็บมาอย่างยาวนานตำแหน่งผู้รักษาประตู ดาบิด เด เคอา ที่เวลานี้หลุดไปเป็นมือ 2  โดยปริยายแม้จะได้ลงเล่นในถ้วยยุโรป แต่เกมนี้คงต้องเปิดทางให้ ดีน เฮนเดอร์สัน ลงเฝ้า ขยับมาที่เกมรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์

กัปตันทีมเตรียมทำลายสถิติลงเล่น 90 นาทีในเกมพรีเมียร์ลีก 72 เกมติดต่อกัน ซึ่งจะแซงหน้าแกรี่ พัลลิสเตอร์ ที่เคยทำไว้ในช่วงปี 1993-1995 ในแนวรุก เมสัน กรีนวู้ด และ แดเนียล เจมส์ อาจกลับมามีชื่อเป็นตัวจริง โดย กรีนวู้ด เกมกับ โรม่า ถูกส่งลงไปเล่นในช่วง 14 นาทีท้าย ขณะที่หน้าเป้าต้องดูว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด จะถูกดันมาเล่นเหมือนในเกมลีดส์ หรือใช้ เอดินสัน

คาวานี่ ที่ทำได้ดีในเกมกลางสัปดาห์ต่อไป

 

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน ; อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ ; สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด ; เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ปอล ป็อกบา ; มาร์คัส แรชฟอร์ด

 

ลิเวอร์พูล

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

24 เม.ย.2564        เสมอ นิวคาสเซิ่ล                   1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

19 เม.ย.2564        เสมอ ลีดส์                            1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

14 เม.ย.2564        เสมอ เรอัล มาดริด                0-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

10 เม.ย.2564        ชนะ แอสตัน วิลล่า                2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

6 เม.ย.2564           แพ้ เรอัล มาดริด                  1-3 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

สภาพทีมลิเวอร์พูล

"หงส์แดง"ทำได้เพียงบุกไปเสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 ในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นัดนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงไม่สามารถใช้งาน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ที่ต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บกล้าม

เนื้อแฮมสตริง ทำให้ ฟาบินโญ่ จะถอยจากแดนมิดฟิลด์ มายืนเป็นเซ็นเตอร์จำเป็นคู่กับ โอซาน คาบัค อีกครั้ง  ส่วนทรีโอแดนกลาง  ติอาโก้ อัลกันตาร่า จะปรับจังหวะเกมกับ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และ เจมส์ มิลเนอร์ จอมเก๋าสารพัดประโยชน์ ส่วน 3 ประสานในเกมรุกคงหนีไม่พ้น  โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ  ซาดิโอ มาเน่ โดยมี ดิโอโก้ โชต้า รอโอกาสอยู่

ข้างสนาม ขณะที่ผู้เล่นในลิสต์บาดเจ็บยังเป็นชื่อเดิมๆ คือ โจ โกเมซ ,เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจเอล มาติป,ควีวิน เคลเลเฮอร์ และ ดิว็อค โอริกี้

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม,ติอาโก้ อัลกันตาร่า,เจมส์ มิลเนอร์ ; โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่

 

เกร็ดที่น่าสนใจก่อนเกม "แดงเดือด"

-เป็นเกมที่พบกันนัดที่ 234  ในทุกรายการ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล สถิติการพบกันที่ผ่านมา "ปิศาจแดง" ชนะ 89 นัด "หงส์แดง" ชนะ 77 นัด และจบลงด้วยการเสมอกัน 68 นัด

-การเจอกันของทั้งคู่นับตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีก (ปี 1992) พบกันมาแล้วทั้งหมด 57 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 28 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 15 นัด และจบด้วยผลเสมอ 14 นัด

-นัดนี้ถือเป็นการพบกันในลีกครั้งที่ 176 ซึ่งผลการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมที่พบมากที่สุดคือลงเอยด้วยผลเสมอ  0-0 (ซึ่งเกิดขึ้นถึง 20 ครั้ง)

-การพบกันของทั้งคู่ในลีก 9 เกมหลังมีถึง 6 เกมที่ลงเอยด้วยผลเสมอ และ ลิเวอร์พูล แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงนัดเดียวเท่านั้น

-การที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะที่ โอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อเดือนมกราคม ในเกม เอฟเอ คัพ ถือเป็นชัยชนะเหนือ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งที่ 2 ในการพบกัน 12 นัดหลังในทุกรายการ

- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผลงานที่ผ่านมาแพ้เพียงนัดเดียว จาก 22 นัดหลังในทุกรายการ (ชนะ 13 เสมอ 8) ซึ่งเกมที่แพ้เป็นการบุกไปแพ้ เลสเตอร์ 1-3 ในเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย

-12 เกมที่ผ่านมาในทุกรายการ นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำประตูได้ทุกนัด ยกเว้นเพียงในเกมพบกับ ลีดส์ เพียงเกมเดียวที่บุกไปเสมอ ลีดส์ 0-0

- แม้ 4 เกมหลังทุกรายการ ลิเวอร์พูล จะไม่แพ้ แต่ก็เป็นการเสมอใน 3 เกมหลัง โดยที่ 2 เกมหลังซึ่งเป็นในเกมลีก ลงเอยด้วยผลเสมอ  1-1

- "เกมแดงเดือด" 15 นัดหลังสุดจากทุกรายการที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้เพียงแค่ครั้งเดียว (ชนะ 10 เสมอ 4) และนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2014 ลิเวอร์พูล ไม่เคยบุก

มาชนะได้ที่นี่ซึ่งถือเป็นการไม่ชนะยาวนาน 8 เกมเข้าให้แล้ว โดยครั้งล่าสุดที่ "หงส์แดง"บุกมาชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คือในวันที่ 16 มีนาคม 2014 โดยครั้งนั้นบุกมาชนะ 3-0 (สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิง 2 จุดโทษ+ หลุยส์ ซัวเรซ)

-ดีน เฮนเดอร์สัน เตรียมกลายเป็นผู้รักษาประตูชาวอังกฤษคนแรกที่ลงเฝ้าเสาเกมลีกให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล โดยประตูชาวอังกฤษคนหลังสุดที่เคยเฝ้าเสาคือ  เลส ซีลีย์ ที่ลงทำหน้าที่ในปี 1991

-มาร์คัส แรชฟอร์ด ศูนย์หน้าของทีม "ปิศาจแดง" มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง 5 ลูกจาก 4 เกมหลังที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในการพบกับ ลิเวอร์พูล ทุกรายการ โดยทำได้ 4 ประตู กับ 1 แอสซิสต์

-โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ หากเกมนี้สามารถทำประตูได้ จะกลายเป็นแข้ง ลิเวอร์พูล คนแรก ที่ทำประตูในการบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 เกม ในฤดูกาลเดียว โดยแข้งล่าสุดที่เคยทำไว้คือ แฮร์รี่ แชมเบอร์ส เมื่อ 100 ปีที่แล้ว

-โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยิงได้เพียงประตูเดียวในการพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 14 นัดก่อนหน้านี้ ขณะที่ ซาดิโอ มาเน่ ทำได้เพียงประตูเดียวจาก 11 นัดที่เจอกันใน "แดงเดือด"

-7 นัดที่ ฟาบินโญ่ ถอยจากมิดฟิลด์ลงไปยืนเป็นปราการหลังตัวกลาง ลิเวอร์พูล ไม่เคยชนะ เสมอ 3  แพ้ 4 นัด

- เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ต้องการคว้าชัยชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้ามาเยือน 6 นัดไม่สามารถชนะได้ (เสมอ 4 แพ้ 2) ซึ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ กุนซือชาวเยอรมัน ไม่สามารถพาทีมชนะได้เลยด้วยจำนวนนัดมากที่สุดนับตั้งแต่การเดินบนเส้นทางการเป็นผู้จัดการทีม

TOP ข่าวกีฬา
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ