หลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม จี ทีมชาติไทย จบในอันดับ 4 ของกลุ่ม ซึ่งแม้จะไม่ได้ผ่านไปเล่นในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย
แต่ทั้งนี้ทีมชาติไทย ยังดีพอที่จะได้สิทธิ์เข้ารอบคัดเลือก "เอเชียน คัพ 2023" รอบ 3 ร่วมกับ 21 ชาติ คือ ทาจิกิสถาน, อุซเบกิสถาน, คูเวต, บาห์เรน, เติร์กเมนิสถาน, จอร์แดน, ปาเลสไตน์, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, คีร์กีซสถาน, อินเดีย, สิงคโปร์, มองโกเลีย, อัฟกานิสถาน, ฮ่องกง, มัลดิฟส์, ศรีลังกา, เมียนมา, เยเมน และ บังคลาเทศ
"นิชิโนะ" กระตุ้นช้างศึกชนะมาเลเซียส่งท้ายคัดบอลโลก
"สมยศ" ขอโทษแฟนบอล หลังผลงาน "ทีมชาติไทย" ไม่เป็นไปตามเป้า
ขณะที่อีก 4 ชาติต้องเล่นเพลย์ออฟ คือ อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ไต้หวัน และกวม โดยจะมีการจับสลากประกบคู่เตะเหย้า-เยือน ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ จากนั้นจะแข่งขันนัดแรก 7 ก.ย. และนัดที่ 2 ในวันที่ 12 ต.ค. โดยทีมชนะ 2 ทีม จะผ่านเข้าไปเล่นรอบคัดเลือก “เอเซียน คัพ 2023” รอบ 3 ไปรวมกับ 22 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบไปก่อนหน้านี้ รวมเป็น 24 ทีม
สำหรับการแบ่งโถจับสลากในรอบแบ่งกลุ่ม รอบ 3 จะแบ่งทีมในโถต่างๆตามอันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง
โดยโถ 1 ประกอบด้วย อุซเบกิสถาน, จอร์แดน, บาห์เรน, คีร์กีซสถาน, ปาเลสไตน์, อินเดีย
ทีมชาติไทย ที่อยู่อันดับ 106 ของโลก ถูกจัดอยู่โถ 2 ร่วมกับ ทาจิกิสถาน, ฟิลิปปินส์, เติร์กเมนิสถาน, เมียนมาร์ และ ฮ่องกง
โถ 3 เยเมน, คูเวต, อัฟกานิสถาน, มาเลเซีย, มัลดีฟส์, สิงคโปร์
ส่วนโถ 4 ได้แก่ เนปาล, บังคลาเทศ, มองโกเลีย และ ศรีลังกา
ทั้งนี้จะยึดจากแรงกิ้งที่ฟีฟ่าประกาศในวันที่ 18 มิถุนายน นี้ เท่านั้น ขณะที่วันแข่งขันจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ขณะที่ “เอเซียน คัพ 2023” รอบคัดเลือก รอบ 3 จะคัด 11 ทีมเข้าสู่รอบสุดท้าย ไปรวมกับ 13 ทีมที่ผ่านไปรออยู่แล้วจากผลงานฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ประกอบไปด้วย จีน (เจ้าภาพ), ซาอุดีอาระเบีย, ซีเรีย, ยูเออี, ออสเตรเลีย, โอมาน, อิหร่าน, อิรัก, กาต้าร์, เวียดนาม, ญี่ปุ่น, เลบานอน และ เกาหลีใต้ โดยในรอบสุดท้ายจะแข่งขันระหว่างวันที่ 16 มิ.ย.-16 ก.ค. 2566