วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก ลีดส์ พบ ลิเวอร์พูล 12 ก.ย.64


โดย PPTV Online

เผยแพร่




วิเคราะห์ พรีเมียร์ลีก ลีดส์ พบ ลิเวอร์พูล

ปรีวิว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

อาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2564

ลีดส์-ลิเวอร์พูล

สนาม : เอลแลนด์ โร้ด เวลาคิกออฟ :  22.30 น.

ผู้ตัดสิน :   เคร็ก พอว์สัน

ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา

20 เม.ย.2564   ลีดส์ 1-1 ลิเวอร์พูล

12 ก.ย.2563    ลิเวอร์พูล 4-3 ลีดส์

 

ลีดส์

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

29 ส.ค.2564 เสมอ เบิร์นลี่ย์                    1-1  (เยือน) พรีเมียร์ลีก

24 ส.ค.2564  ชนะ ครูว์                          3-0 (เหย้า) ลีก คัพ

 

ฟีฟ่า ไฟเขียว แข้งอเมริกาใต้เบี้ยวเล่นทีมชาติเตะพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้

รายชื่อ 11 ตัวจริง !! พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ ลีดส์ 12 ก.ย. 63

21 ส.ค.2564  เสมอ เอฟเวอร์ตัน              2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

14 ส.ค.2564  แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด             1-5 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

7 ส.ค.2564    เสมอ บียาร์เรอัล                2-2 (เหย้า) อุ่นเครื่อง

สภาพทีมลีดส์ 

มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ได้ แดเนี่ยล เจมส์ ตัวริมเส้นป้ายแดงที่ย้ายมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมลุ้นลงสนาม สจ๊วร์ต ดัลลัส แข้งสารพัดประโยชน์ แม้ถอนตัวจากทีมชาติสกอตแลนด์ ด้วยเหตุผลส่วนตัว แต่เกมนี้จะออกสตาร์ตได้ ด้าน ราฟินญ่า  พร้อมลงเช่นกันหลังยูฟ่า ไม่แบนแข้งที่ไม่กลับไปเล่นให้ทีมชาติในโซนอเมริกาใต้แล้ว  จูเนียร์ ฟีร์โป แบ็คซ้าย และ มาร์เตอุส คลิชท์ มิดฟิลด์ หากจากโควิด-19.เรียบร้อยแล้ว  ขณะที่ คาลวิน ฟิลลิปส์ และ แพทริก แบมฟอร์ด กลับมาจากการเล่นทีมชาติอังกฤษอย่างไร้ปัญหาพร้อมมีชื่อเป็น 11 คนแรก

 

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

ลีดส์  (4-1-4-1) : อิลลัน เมส์ลิเย่ร์ ;ลุค อายลิ่ง, เลียม คูเปอร์, ดีเอโก้ ยอเรนเต้,จูเนียร์ ฟีร์โป; คาลวิน ฟิลลิปส์; ราฟินญ่า, สจ๊วร์ต ดัลลัส, มาร์เตอุส คลิชท์, แจ็ค แฮร์ริสัน; แพทริค แบมฟอร์ด

 

ลิเวอร์พูล

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

28 ส.ค.2564  เสมอ เชลซี                       1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

21 ส.ค.2564    ชนะ เบิร์นลี่ย์                  2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

14 ส.ค.2564     ชนะ นอริช                     3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

9 ส.ค.2564       ชนะ โอซาซูน่า                3-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง

8 ส.ค.2564       เสมอ แอธ.บิลเบา           1-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง

สภาพทีมลิเวอร์พูล

เจอร์เก้น คล็อปป์  จะสามารถ ส่ง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์คลงเล่นได้แม้ว่าจะมีปัญหาเจ็บเล็กน้อยติดมาจากเกมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ นัดชนะ ตุรกี 6-1 ก็ตาม เช่นเดียวกับ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ กองกลางดาวรุ่งที่เจ็บถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเวลานี้ฟิตพร้อมลงสนาม ขณะที่ อลิสซง เบ็คเกอร์,ฟาบินโญ่ พร้อมลงหลัง ฟีฟ่า ไฟเขียวให้ แข้งทีมชาติบราซิล ที่ไม่กลับไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกรอบล่าสุด แต่ในรายของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ยังคงมีอาการเจ็บ เจมส์ มิลเนอร์ แข้งจอมเก๋า แม้กลับมาซ้อมได้แล้วแต่ยังไม่ฟิต เช่นเดียวกับ ทาคุมิ มินามิโนะ ส่วน เคอร์ติส โจนส์ ดาวรุ่งต้องรอเช็คฟิต ขณะที่ นาบี เกอิต้า บินกลับมาจากการเล่นให้ทีมชาติกินี อย่างปลอดภัย หลังเจอรัฐประหารในประเทศ เกมรุกยังใช้ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เล่นร่วมกับ ดีโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน่ เหมือนเดิม  

 

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์,; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ;,ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์,ฟาบินโญ่,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน; โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดีโอโก้ โชต้า, ซาดิโอ มาเน่

เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม

-พบกันในพรีเมียร์ลีก ทั้งหมด 26 นัด ลีดส์ ชนะ 6 ลิเวอร์พูล ชนะ 15 จบด้วยผลเสมอ 5 นัด

-ชัยชนะของลีดส์ ที่มีเหนือ ลิเวอร์พูล ในทุกรายการ นั้นมันเกิดคือคือในเกมลีก เมื่อมากกว่า 20 ปีที่แล้ว

-ลีดส์ ไม่เคยเก็บคลีนชีตในเกมพบ ลิเวอร์พูล 22 นัดล่าสุดในลีก นับตั้งแต่เสมอแบบ 0-0 ในเดือนเมษายน ปี 1999

 -ลิเวอร์พูล อาจกลายเป็นทีมแรก ที่ทำสถิติคว้าชัยชนะเหนือ ลีดส์  ในเกมลีกสูงสุด 50 นัด 

-ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะในการเป็นทีมเยือนเกมลีก  7 จาก 8 นัดหลัง ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการชนะ 4 เกมติดต่อกัน

-ลีดส์ ไม่แพ้ทีมใดที่เอลแลนด์ โรด ใน 7 เกมหลังสุดในลีก  (ชนะ 3, เสมอ 4) โดยสถิติที่ดีสุดคือในปี 2001 ที่ไม่แพ้ในบ้านเกมลีก 15 นัดติด
-หากเกมนี้ลีดส์ ไม่ชนะจะเป็นการไม่ชนะ 4 เกมติดในลีก ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1958-1959.

-ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ 33 เกมในพรีเมียร์ลีก ที่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ยืนเซ็นเตอร์คู่กับ โฌเอล มาติป
-โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องการยิงอีกเพียงประตูเดียว จะเป็นผู้เล่นคนที่ 30 ที่ทำครบ 100 ประตูในพรีเมียร์ลีก และกลายเป็นคนที่ 2 ที่เป็นผู้เล่นชาวแอฟริกันต่อจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา

-แพทริค แบมฟอร์ด ยิงไปแล้ว 98 ประตูในการเล่นเกมลีก ที่สำคัญเพิ่งทำ 4 ประตูจาก 7 เกมนัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก

 

TOP ข่าวกีฬา
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ