ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นคิวเตะ เอฟเอ คัพ ซึ่งเปิดโอกาสให้สโมสรทุกระดับในประเทศร่วมแข่งขัน บ่อยครั้งเราจะได้เห็นทีมเล็กล้มทีมใหญ่ เนื่องจากทีมชั้นนำมักส่งผู้เล่นสำรองหรือแข้งเยาวชนลงสนาม แต่ล่าสุดมีการเปิดเผยค่าตัวจากทีมในพรีเมียร์ลีกที่นั่งสำรองในศึกเอฟเอคัพช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าสูงเกือบ 800 ล้านปอนด์ หรือกว่า 36,000 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากจนน่าใจหาย โดยทีมที่ค่าตัวแข้งสำรองสูงสุดคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะลำพัง พอล ป็อกบา กับ เฮ็นริค มคิทาร์ยาน 2 คน ปาเข้าไปประมาณ 120 ล้านปอนด์ หรือ 5,400 ล้านบาทแล้ว
รองลงมาคือลิเวอร์พูล 117 ล้านปอนด์ คิดเป็นเงินไทย ราวๆ 5,300 ล้านบาท มีทั้ง โรแบร์โต ฟีร์มิโน่, อดัม ลัลลาน่า และ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม แม้แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีมยังออกปากว่านี่คือชุดสำรองที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาเลยทีเดียว ขณะที่ เชลซี ตามมาเป็นอันดับ 3 ค่าตัวแข้งสำรอง รวม 110 ล้านปอนด์ หรือเกือบ 5,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม มี 2 ทีมหัวตารางอย่าง อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส ที่ต่างออกไป เพราะแข้งสำรองของแต่ละทีม ค่าตัวรวมกันไม่ถึง 40 ล้านปอนด์ ด้วยซ้ำ
จากการเปิดเผยตัวเลขนี้ ทำให้เห็น 2 ปัญหาหลักๆ ในวงการฟุตบอลอังกฤษคือ ทีมใหญ่ๆ ให้ความสำคัญกับฟุตบอลถ้วยน้อยลง อาจเป็นผลทางด้านธุรกิจคือเงินรางวัลและเงินที่ได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไม่คุ้มต่อการลงทุน แต่มองในแง่ดี ก็ถือเป็นเวทีแจ้งเกิดของทีมเล็กหรือแข้งเยาวชน