กีฬาสนุกเกอร์และบิลเลียดในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ โดยปกติแล้วจะชิงชัยกันอยู่ที่ 10 เหรียญทอง แต่คราวนี้เจ้าภาพมาเลเซีย ตัดประเภททีมที่ไม่ถนัดเหลือเพียงแค่ 7 ทองเท่านั้น ได้แก่ สนุกเกอร์เดี่ยวและคู่,บิลเลียดเดี่ยวและคู่,และพูลอีก 3 เหรียญ ซึ่งตอนนี้นักกีฬาทั้งหมดฝึกซ้อมกันอยู่ที่ ทีบีซี สนุกเกอร์ คลับ รามคำแหง ซึ่งโค้ชหรั่ง พัทยามองว่า การลดเหรียญทองลงมานั้นก็ทำให้นักกีฬามีความกดดันมากขึ้น รวมถึงนักกีฬาชาติเพื่อนบ้านก็พัฒนาฝีมือขึ้นมาได้น่ากลัว โดยเฉพาะเมียนมาร์ แต่สมาคมยังคงตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2 ทองจากประเภทคู่ ทั้งสนุกเกอร์และบิลเลียด
ซึ่งทั้ง 2 ประเภท ไทยอาศัยความเก๋าและประสบการณ์เข้าสู้ โดยสนุกเกอร์ นั้นส่งอิฐ จันท์ และตัวเล็ก สำโรง ลงแข่งขัน ซึ่งเป็นการคัมแบ็คทีมชาติครั้งแรกในรอบ 11 ปีของตัวเล็กด้วยหลังเคยคว้าทองประเภทเดี่ยวในซีเกมส์ที่โคราช ซึ่งตัวเล็กบอกว่า ประเภทคู่ครั้งนี้ เจ้าภาพเปลี่ยนกติกาเป็นการแทงแบบสก็อต คือสลับแทงคนละลูก เพื่อหวังลดความได้เปรียบของทีมไทยที่เข้าเบรคได้ยาวๆ แต่คู่ของไทยก็ยังได้เปรียบชาติอื่นอยู่ดี แต่ก็จะประมาทไม่ได้
มาดูกันที่บิลเลียดกันบ้าง อีกหนึ่งนักสอยคิวจอมเก๋า คือ ประพฤติ ชัยธนสกุล หรือ รมย์ สุรินทร์ ที่ลงแข่งขันตั้งแต่ซีเกมส์ครั้งที่ 16 หรือตั้งแต่เมื่อ 26 ปีที่แล้ว โดยรมย์ มองว่า ตัวเต็งคนสำคัญในประเภทเดี่ยวก็คือ ปีเตอร์ กิลคริสต์ ของสิงคโปร แชมป์ 4 สมัยซ้อน แต่ตัวเองยังมั่นใจในประเภทคู่ที่รู้มือกันดีกับ วัดหาดใหญ่ เพราะลงคู่กันมาหลายสมัยแล้ว และคราวนี้ซ้อมกันหนักมาก ส่วนอายุที่ปีนี้ 55 ปีแล้ว ก็ไม่ได้ส่งผลต่อฝีมือ ยังสู้ได้ทุกคน
ผลงานนักสอยคิวทีมชาติไทยเคยทำไว้ดีสุด คือ 4 ทองในซีเกมส์ที่โคราช แต่ว่าครั้งที่แล้วที่สิงคโปร์ ได้เพียงแค่ 1 ทองจากบิลเลียดประเภททีม ร่วมส่งแรงใจแรงเชียร์ให้ทั้ง 10 นักสอยคิวทีมชาติไทย ในซีเกมส์ครั้งนี้ กับเป้าหมาย 2 เหรียญทองที่ตั้งไว้
ปสุต วงศ์กำแหง ถ่ายภาพ
ยศภาคย์ เรืองไพศาล รายงาน
