เรอัล มาดริด บุกไปเยือน เรอัล โซเซียดาด เกมนี้ ทีมเยือน ยังไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ติดโทษแบนอยู่ มาดริด ทำประตูนำก่อน ในนาทีที่ 19 จาก บอร์ฆา มาโยรัล แต่ดีใจได้ไม่นาน เจ้าบ้าน ไล่ตีเสมอ 1-1 จาก เควิน โรดริเกส วอลเลย์แบบไม่จับ มาดริด ได้ประตู แซงนำ จากความผิดพลาด ของ เควิน โรดริเกส ที่พยายามสกัดการทำประตู ของ มาโยรัล กลายเป็นทำเข้าประตูตัวเอง ให้ มาดริด หนีเป็น 2-1 ในนาทีที่ 36
ครึ่งหลัง นาที 60 มาดริด บวกสกอร์เพิ่มเป็น 3-1 จากแกเร็ธ เบล ได้บอลหลุดขึ้นไป กระดกข้ามตัวผู้รักษาประตูเจ้าบ้านเข้าไป เป็นประตูปิดกล่อง ให้ มาดริด บุกมาเก็บชัยชนะ เหนือ เรอัล โซเซียดาด 3-1 กลับมาเก็บชัยชนะ หลัง เสมอมา 2 นัดติด มี 8 คะแนน จาก 4 นัด ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4
ชัยชนะนัดนี้ ทำให้ มาดริด เป็นทีมที่ยิงติดต่อกันมากที่สุดในโลก ที่ 73 นัด เท่ากับ ซานโต๊ส ที่เคยทำไว้ เมื่อปี 1961 – 1963 ในยุคสมัย ที่ เปเล่ ตำนานทีมชาติบราซิล ยังค้าแข้งอยู่ นัดหน้า มาดริด จะเปิดบ้านเจอกับ เรอัล เบติส หากพวกเขายิงประตูได้ ก็จะทลายสถิติโลกทันที โดยครั้งสุดท้าย ที่มาดริด ไม่สามารถ ทำประตูได้ คือเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ ที่ เสมอกับ แมนฯซิตี้ 0-0 เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วนั่นเอง
ในขณะ ที่บาร์เซโลน่า ทีมจ่าฝูง มีข่าวร้าย เพราะต้องขาด อุสมาน เด็มเบเล่ นักเตะค่าตัวแพงสุดของสโมสรไปอีกหลายนัด หลังเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา จนต้องถูก เปลี่ยนตัวออก ตั้งแต่ นาทีที่ 29 ในเกมที่ บาร์ซ่า เฉือนชนะ เกตาเฟ่ 2-1
แพทย์สโมสร ระบุว่า เด็มเบเล่ ต้องเข้าผ่าตัด เพราะกล้ามเนื้อเอ็นต้นขาข้างซ้ายฉีก ซึ่งต้องพักราวๆ 3 เดือนครึ่ง ถึง 4 เดือน โดยเด็มเบเล่ เพิ่งจะได้ลงสนาม ให้บาร์ซ่า ไป เพียง 3 นัด หลังย้าย จากดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมในคัมป์นู ด้วยค่าตัวสูงที่สุดสถิติสโมสร 97 ล้านปอนด์ หรือ ราว 4,365 ล้านบาท