ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สมาคมฯ มีความประสงค์ที่จะออกแบบสัญลักษณ์ภายใต้แนวคิด “ช้างศึก” จึงได้เปิดโอกาสให้แฟนบอลและบุคคลทั่วไปนำเสนอไอเดียทั้งในแบบเต็มตัวและบางส่วน ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ถึง 30 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดมากกว่า 1,000 ชิ้น ซึ่งทางสมาคมฯ ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ จนได้ 5 แบบที่ผ่านการคัดเลือกให้แฟนบอลเลือกโหวตเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา โดยพิจารณาจากความสวยงาม, ความร่วมสมัย และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งผลงานของ นายต่อพงศ์ บูรณพิเชษฐ์ ได้รับรางวัลชนะเลิศจากความเห็นของคณะกรรมการ รวมถึงได้รับผลโหวตจากแฟนบอลถึง 42 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน
โดย นายต่อพงศ์ บูรณพิเชษฐ์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศโลโก้ “ช้างศึก” เปิดเผยว่า เป็นคนที่ชอบฟุตบอลอยู่แล้ว และหลังจากมีข่าวว่าสมาคมฯ เปิดให้ส่งโลโก้ใหม่ทีมชาติไทยเข้าประกวด จึงอยากลองทำ และส่งผลงานเข้าประกวด ตอนแรกไม่ได้หวังว่าจะได้รับรางวัลครับ แค่ต้องการที่จะส่งผลงานเข้าประกวดและมีส่วนร่วมกับกิจกรรมครั้งนี้เท่านั้น ซึ่งนี่เป็นผลงานของทีมชาติไทย ทุกคนล้วนต้องการมีส่วนร่วมอยู่แล้ว
นายต่อพงศ์ กล่าวต่อว่า กระบวนการการออกแบบสัญลักษณ์แนวคิด “ช้างศึก” นั้น ได้เริ่มหาข้อมูล เริ่มจากดูโจทย์ที่ทางสมาคมฯ ให้มาว่า โลโก้ ช้างศึก ต้องมีลักษณะอย่างไร ต่อมาได้เริ่มศึกษาและดูโลโก้ทีมชาติไทยในอดีตว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนได้ทำโครงสร้าง และคิดแนวทางของโลโก้ว่าต้องสื่อความหมายถึงความมีพลัง , มีความเคลื่อนไหว , มีความเป็นมืออาชีพ , เป็นทางการ , ดูสูงส่ง เพราะนี่ไม่ใช่โลโก้ระดับสโมสร แต่เป็นโลโก้ประจำทีมชาติไทย นอกจากนี้โลโก้ต้องมีอัตลักษณ์ของความเป็นไทย
นอกจากนี้ ผู้ชนะเลิศการออกแบบสัญลักษณ์ “ช้างศึก” ยังได้เผยถึงที่มาของ ไอเดีย ชิ้นนี้ว่า สิ่งที่สำคัญที่ทำให้เกิดไอเดียทำโลโก้ชิ้นนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ตนไปเห็นภาพแปรอักษรที่เป็นเลขเก้าไทย และคิดว่าเลขเก้าไทยนั้นคล้ายกับภาพช้าง จึงเริ่มพัฒนารูปทรง และ ทำลายเส้นขึ้นมา เพื่อสื่อความหมายดังนี้ 1.รูปช้างศึก สื่อความหมายถึงสัญลักษณ์ของทีมชาติไทย 2.รูปทรงตามแบบผ้าปกกระพอง ที่สื่อความหมายถึงชัยชนะ 3. รูปธงชาติไทย สื่อความหมายถึงความสามัคคี กลมเกลียว นำมาซึ่งชัยชนะ 4. เลขเก้าไทย สื่อความหมายถึงการก้าวไปข้างหน้า และอันสุดท้ายคือลายเส้น ที่สื่อความหมายถึงความเป็นไทย โดยตนใช้เวลาออกแบบทั้งสิ้น 1 เดือนจึงเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนกระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้นหลังการประกาศรับรางวัลชนะเลิศนั้น นายต่อพงศ์ ระบุว่า หลังจากผลงานของตนชนะเลิศ แน่นอนว่ามีความภาคภูมิใจมาก เพราะสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นของคนทั้งชาติด้านฟุตบอล ส่วนเสียงวิจารณ์นั้น ยอมรับได้อยู่แล้ว เพราะโลโก้สำคัญระดับโลก ล้วนมีเสียงวิจารณ์ทั้งนั้น เราทำงานด้านนี้เราต้องยอมรับให้ได้