ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรีฑา เป็นกีสากล แต่เมื่อมาอยู่ในการแข่งขันชาวไทยภูเขา ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะไม่มีกฎเรื่องเครื่องแต่งกาย ก็เลยได้เห็นนักวิ่งบางคนเปลือยเท้าเปล่าลงแข่ง เพราะรู้สึกมั่นใจและถนัดกว่า รวมถึงนักกีฬาวิ่งส่วนใหญ่ยังเป็นคนชนเผ่า กระเหรี่ยงและม้ง ซึ่งสาเหตุที่คนจากสองเผ่านี้ ถูกคัดเลือกให้เป็นนักวิ่งมากที่สุด ก็เพราะมีวิถีชีวิตที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงและคล่องตัวมากกว่าคนเผ่าอื่นๆ
โดยแม้จะดูเป็นการวิ่งที่ไม่ได้ขับเคี่ยวกันคนต่อคน แต่นี่ถือเป็นการวิ่งที่ยากที่สุด เพราะต้องอาศัยความเป็นอันหนึ่งอีนเดียวเป็นหลัก และทั้ง 5 คนต้องช่วยกันประคับประคอง ทำเวลาดีตั้งแต่คนหัวแถว คอยช่วยกันบล็อก คู่แข่งไม่ให้เบียดเพื่อน จนกระทั่งพา นักวิ่งคนสุดท้าย เข้าเส้นชัยด้วยเวลาที่ดีที่สุด อย่างนักวิ่งจาก ตากกลุ่มนี้ เสน่ห์ของกีฬาชนิดนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสามัคคีเท่านั้น แต่ยังช่วยเปิดโอกาสให้เยาวชน บนเขา มีโอกาสวในการแข่งขันวิ่งมากขึ้นด้วย เพราะเด็กๆเหล่านี้ มีฝันอยากจะลงแข่งขันวิ่งรายการใหญ่ แต่เพราะเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี และมีข้อจำกัดเรื่องสัญชาติ เวทีนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเวที ที่จะสามารถพาพวกเค้าต่อยอดไปสู่การติดทีมจังหวัด ไปจนถึงทีมชาติได้
อย่างไรก็ตาม หากกีฬาวิ่งสามัคคียังมีในการแข่งขันกีฬาขาวไทยภูเขา ในทุกปี เยาวชนบนดอยก็จะมีโอกาสในเส้นทางนักกีฬาอาชีพมากขึ้น เหมือนกับน้องชายน้อย นักวิ่งแบกก๋วยคนนี้ ที่ปัจจุบัน ได้เซ็นสัญญากับสโมสรทหารอากาศในฤดูกาลหน้า