ทีมข่าวกีฬา PPTV จึงนำสถิติต่างๆ ของทั้งสองคนมาเทียบฟอร์มให้เห็น เริ่มจาก ลูกากู เป็นกองหน้าตัวเป้าคนเดียวของแมนฯยูไนเต็ด ลงสนามในพรีเมียร์ลีก 28 นัด มีส่วนร่วมกับการได้ประตูของแมนฯยูไนเต็ด 20 ประตู ยิงได้ 14 ประตูและ แอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมอีก 6 ครั้ง ขณะที่ ซาลาห์ ลงเล่นพรีเมียร์ลีก 28 นัด มีส่วนร่วมกับการได้ประตูของลิเวอร์พูลถึง 32 ประตู ยิง ได้ 24 ประตู (นำดาวซัลโวร่วมแฮร์รี่ เคน)กับ แอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ถึง 8 ครั้ง ซาลาห์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาต้องการทำประตูแมนฯยูไนเต็ด ให้ได้เพื่อสร้างสถิติของตัวเองที่ทำประตูทีมระดับท็อป ก่อนหน้านี้เกมเจอ สเปอร์ส, อาร์เซน่อล, แมนฯซิตี้, เชลซี ทำประตูได้ทั้งหมด และเกมพรุ่งนี้ ซาลาห์ อยากแก้ตัว เพราะพลาดหลายจังหวะง่ายๆ ในเกมแรกที่ ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนฯยูไนเต็ด
สถิติของ ซาลาห์ เหนือกว่า ลูกากู ทุกอย่าง ยิ่งเจาะลึกลงไปอีก ซาลาห์ ลงเล่นไปแล้ว 2214 นาที ทำได้ 24 ประตู เฉลี่ยทุกๆ 92.25 นาที ซาลาห์ จะทำได้ 1 ประตู ขณะที่ ลูกากู ลงสนามเป็นตัวจริง 28 นัด เล่นไป 2431 นาที ยิงได้ 14 ประตู เฉลี่ยทุก 173.64 นาที ลูกากู ถึงจะยิงได้ 1 ประตู หากนับตั้งแต่เข้าปี 2018 เฉพาะพรีเมียร์ลีก ลูกากู ยิงไป 4 ประตูส่วน ซาลาห์ ยิงไป 7 ประตู
ทั้งสองคน จะยิงประตู ช่วยทีมได้หรือไม่ แฟนบอลชาวไทย ติดตามพร้อมกันทางหน้าจอ PPTV HD 36 วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม เวลา 19.30 น. ส่วนใครอยากไปร่วมสนุก กับกิจกรรมออนกราวน์ของ PPTV สามารถไปร่วมงานที่ลานหน้า เซ็นทรัลเวิลด์ งานนี้ ชมฟรี แถมมีของรางวัลลุ้นติดมือกลับบ้านไปด้วย