โดยนี่กลายเป็นประเด็นร้อนกับความสัมพันธ์ของ โชเซ่ มูรินโญ่ กับ ปอล ป็อกบา คาดว่า สาเหตุน่าจะมาจากที่ป็อกบา วิจารณ์แท็คติกของมูรินโญ่ ว่าควรจะให้เล่นเกมบุกมากกว่านี้ จึงทำให้ มูรินโญ่ ไม่พอใจ ดร็อปไม่ให้ลงเล่นในเกมลีกคัพเมื่อคืนนี้ และปลด ออกจากการเป็นกัปตันทีม พร้อมระบุเหตุผลว่า สิทธิ์ของผม และไม่จำเป็นต้องชี้แจง ทั้งนี้ความสัมพันธ์ของ ป็อกบา กับ มูรินโญ่ ที่มีข่าวว่าทะเลาะกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะถ้าย้อนไปดูเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงต้นปี ก็มีข่าวในลักษณะนี้มาโดยตลอด
ทั้งนี้ ตั้งแต่ มกราคม มีภาพ มูรินโญ่ เถียงกับ ป็อกบา ในเกมแพ้สเปอร์ส 0-2 ประตู เดือนต่อมา กุมภาพันธ์ มูรินโญ่ ดร็อป ป็อกบา นั่งสำรองหลายนัด เพราะไม่พอใจที่ฟอร์มตก นักข่าวพยายามถาม มูรินโญ่ ว่า ป็อกบา ฟอร์มตกเพราะเจ็บหรือไม่ มูรินโญ่ ตอบว่า ให้ไปถามนักเตะเอง แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับเจ็บ เพราะส่งไปรักษาและพักฟื้นที่สหรัฐอเมริกามาร่างกายก็กลับมาฟิตดี พอนักข่าวถามอีกว่า ป็อกบาจะกลับมาคืนฟอร์มได้ไหม มูรินโญ่ ตอบว่า ช่วยทุกอย่างไปแล้ว ต่อมาเดือนมิถุนายน ป็อกบา ยอมรับมีปัญหากับ มูรินโญ่ เล็กน้อย แต่เคลียร์กันได้ จนมา สิงหาคม – มีข่าวมูรินโญ่ ไม่พอใจ ที่ ป็อกบา ไม่ยอมเข้าแคมป์ซ้อมเร็วกว่ากำหนดเพื่อเตรียมตัวสำหรับเปิดฤดูกาล แต่เลือกไปจัดปาร์ตี้ฉลองแชมป์โลก ที่ LA แต่หลังจากพรีเมียร์ลีกเปิดฤดูกาล สถานการณ์ของคู่นี้ก็ดูปกติ ไม่มีข่าวลือบาดหมาง กระทั่ง หลังเกมที่ แมนฯยูไนเต็ด เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็กลับมามีข่าวทะเลาะกันอีกครั้ง หลังจากป็อกบา ไปวิจารณ์แท็คติกของมูรินโญ่
อย่างไรก็ตาม แม้มูรินโญ่ จะบอกสื่อว่าไม่ได้ทะเลาะกับป็อกบา แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง สื่ออังกฤษหลายเจ้า ทั้ง เดลี่เมลล์ และเดอะซัน ต่างก็ตีข่าว ว่า ป็อกบา เข้าไปคุยกับ มูรินโญ่ และเอ็ด วูดเวิร์ด เพื่อขอย้ายไปบาร์ซ่า ในเดือนมกราคม ซึ่งแมนฯยูไนเต็ด มีข่าวว่าพร้อมจะปล่อย แต่ตั้งค่าตัวไว้สูงถึง 200 ล้านปอนด์ หรือ 8,800 ล้านบาท
นอกจากนี้การตกรอบ แน่นอนว่าต้องทำให้ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซีอีโอของปีศาจแดง มีสีหน้าดูหงุดหงิดชัดเจน หลังจากสื่อได้เผยแพร่ภาพออกมา แถมการให้สัมภาษณ์ของ เอ็ด ในวันแถลงผลประกอบการของสโมสร ก็ยังพูดทำนองสนับสนุนเชิงกดดัน มูรินโญ่ ว่า “ทุกคนในสโมสรทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย สายตัวแทบขาด เพื่อล่าแชมป์ใบที่ 66 ของสโมสร มูรินโญ่ ก็อยากได้แชมป์ใบที่ 25 ของตัวเองเหมือนกัน” แม้สถานการณ์ในทีมจะดูย่ำแย่ แต่ก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้าง เพราะจากตัวเลขรายได้ของสโมสร ในฤดูกาล 2017-18 แมนฯยูไนเต็ด ทำรายได้รวมไปถึง 590 ล้านปอนด์ หรือราว 25,000 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสโมสร ถ้านับเฉพาะกำไร ได้ราว 1,900 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสปอนเซอร์
