วันนี้ (13 ต.ค.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำ พบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำใกล้ถึงจุดวิกฤต โดยในช่วงเช้าวันนี้ เวลา 09.00 น. เขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำที่ระดับ 182.81 เมตร มีความจุ 2,758.29 ล้าน ลบม. คิดเป็นร้อยละ 113.45 ของความจุ และปริมาณน้ำไหลเข้าปริมาณ 119.25 ล้าน ลบ.ม./วัน โดยถือว่าเป็นการไหลเข้าเขื่อนในปริมาณที่มาก นอกจากนี้ยังพบว่า ยังมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 182.84 มิลลิเมตรเทียบกับระดับน้ำทะเลปานกลาง เหลืออีกเพียง 15 ชั่วโมงก็จะแตะที่ 183 ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่น้ำล้นอ่างลงท่วมพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนทำให้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และอาจจะกระทบต่อความมั่นคง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งการให้เปิดประชุมเพื่อพิจารณาการระบายน้ำอีกครั้งในพรุ่งนี้
ขณะที่เมื่อวานนี้ (12 ต.ค60) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จังหวัดขอนแก่น ได้มีมติให้คงปริมาณการระบายน้ำออกจากเขื่อนบลรัตน์ ในปริมาณที่เท่าเดิม แม้ว่า การไฟฟ้าฝ่ายการผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.เขื่อนอุบลรัตน์จะร้องขอมติที่ประชุมให้เพิ่มการระบายน้ำมากขึ้นจากเดิม 35 - 45 เป็น 45 - 68 ล้าน ลบ.ม./วัน เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมากและต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องและภายในอีก 2 - 3 วันข้างหน้าก็จะมีฝนตกหนักอีก
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก “คนขอนแก่น” โพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความระบุว่า ขณะนี้เขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำเกินความจุ ทำให้น้ำหลังเขื่อนล้นขึ้นมาท่วมถนนแล้ว รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ฝากแชร์เตือนกันด้วย และเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนผู้ใช้สายทาง แยกทล.12-บ้านท่าเรือ (อุทยานน้ำพอง) หมวดบำรุงทางหลวงชนบทหนองเรือ จึงขอแจ้งปิดสายทางดังกล่าว ช่วงกม.16+300 (บ้านดอนกอก) ถึง กม.20+400 (อุทยานน้ำพอง) ตั้งแต่ วันที่ 14 ต.ค.60 เป็นต้นไป ผู้ใดที่ต้องการเดินทางไป อำเภออุบลรัตน์ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ที่บ้านหนองผือไปออกบ้านโคกสูง
ส่วนที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดรับน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ ก่อนไหลลงแม่น้ำชี พบว่าระดับน้ำชี้ยังเพิ่มสูง ทำให้น้ำระบายลงช้า แล้วเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะอำเภอฆ้องชัย ร่องคำ และกมลาไสย ขณะที่แม่น้ำชี บริเวณเขื่อนระบายน้ำวังยาง อำเภอฆ้องชัย ปัจจุบันระดับน้ำสูงขึ้นอีก 4 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่จัดเวรยามเฝ้าระวังตามจุดเสี่ยงของพนังกั้นลำชี และแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน
ที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา สถานการณ์น้ำท่วมขยายวงกว้าง ทำให้พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 4,000 ไร่ โดยเฉพาะบริเวณริมลำน้ำมูล ระดับน้ำสูงกว่า 70 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องพายเรือเดินทางเข้าออก ส่วนระดับน้ำในลำน้ำมูล ยังคงต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมน้ำ และสถานที่สำคัญอย่างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย เร่งเสริมกระสอบทรายป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม
ฝนที่ตกหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้น้ำท่วมขังบนถนนหลายสายในตัวเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี อย่างถนนสุขุมวิท พัทยาสาย 3 และถนนเลียบชายหาด ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30-50 เซนติเมตร ทำให้รถขนาดเล็กสัญจรไปมาลำบาก บางจุดการจราจรติดขัดเป็นทางยาว เจ้าหน้าที่ต้องคอยอำนวยความสะดวก ล่าสุดระดับน้ำลดลงเป็นปกติแล้ว หลังฝนหยุดตก
ที่จังหวัดเชียงใหม่ กำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 ช่วยกวาดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนในอำเภอหางดง ที่ถูกน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ไหลหลากเข้าท่วมเมื่อวานนี้ แม้ระดับน้ำจะลดลงแล้ว แต่ยังคงมีเศษดินโคลน และเศษขยะกองทับถมอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ ยังจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลค่ายกาวิละ เข้าให้บริการตรวจรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ประสบภัย และมอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : “คนขอนแก่น”