พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง ร.9


โดย PPTV Online

เผยแพร่




พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันแรกเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวานนี้ ท่ามกลางพสกนิกรที่เดินทางมาร่วมพระราชพิธีตั้งแต่เช้าจนถึงดึก และยังมีอีกจำนวนมากที่อยู่รอร่วมพระราชพิธี ร่วมชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ที่จะมีขึ้นในวันนี้และวันที่ 29 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.60 ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 1 ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ใช้พระยานมาศสามลำคานอัญเชิญพระโกศทองใหญ่จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทด้านในพระบรมมหาราชวัง ในเวลา 08.19 น. ออกทางประตูเทวาภิรมย์ 

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ ร่วมเสด็จในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศด้วย รวมทั้ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ก็ร่วมเดินขบวนพระบรมราชอิสริยยศ

สำหรับการเคคลื่อนขบวนริ้วที่ 1 ใช้พลแบกหามรวม 120 คน มีรองศาสตราจารย์นายแพทย์ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ และศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ทำหน้าที่เป็นพนักงานภูษามาลาประคองพระโกศ โดยมีสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร นั่งบนพระเสลี่ยงกลีบบัว อ่านพระอภิธรรมนำ

ริ้วขบวนเข้าสู่ถนนท้ายวัง เคลื่อนมาจนถึงริ้วขบวนที่ 2 ที่ตั้งขบวนรอหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จากนั้นอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานบนพระมหาพิชัยราชรถ และสมเด็จพระวันรัต นั่งบนราชรถน้อย อ่านพระอภิธรรมนำหน้าพระมหาพิชัยราชรถ

เมื่อพระมหาพิชัยราชรถ อัญเชิญพระโกศทองใหญ่เคลื่อนผ่าน ประชาชนที่ร่วมชมสองฝั่งถนน ก้มลงกราบเพื่อถวายความอาลัย ต่างร่ำไห้ เสียใจ ขณะที่บางคนกอดพระบรมฉายาลักษณ์ไว้แนบอก บรรยากาศโดยรอบเป็นไปอย่างสงบ  และเป็นเช่นนี้ตลอดสองฝั่งถนน จนสิ้นสุดริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ

ริ้วขบวนที่ 2 เคลื่อนผ่านหน้ากระทรวงกลาโหม ศาลหลักเมืองและศาลฎีกา  โดยมีวงดุริยางค์ทหารบก บรรเลงเพลงพญาโศกลอยลม สรรเสริญเสือป่า และสรรเสริญพระนายรายณ์  ตามด้วยทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ อัญเชิญธงชัยเฉลิมพล  รวมระยะทาง 890 เมตร  ริ้วขบวนนี้กำลังพลฉุดชักราชรถจะเดินเปลี่ยนเท้าตามจังหวะเพลงเพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียง สมพระเกียรติยศสูงสุด

จากนั้นเวลาประมาณ  12.10 น. ริ้วขบวนที่ 2 เคลื่อนเข้ามณฑลพิธี ท้องสนามหลวง ก่อนจะหยุดที่กึ่งกลางทางเข้าพระเมรุมาศเพื่อเปลี่ยนสู่ริ้วขบวนที่ 3 อัญเชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถ ขึ้นประดิษฐานบนราชรถปืนใหญ่ จากนั้นเวียนอุตราวัฏ หรือเวียนซ้ายรอบพระเมรุมาศ 3 รอบ ก่อนจะอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน เพื่อประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

โดยในช่วงเย็น เป็นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก่อนที่ช่วงดึก ประชาชนที่ท้องสนามหลวง ต่างได้เห็นภาพควันที่พวยพุ่งออกจากพระเมรุมาศ และได้ก้มลงกราบถวายบังคมลา ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย หลังสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงขึ้นพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.

ประชาชนหลั่งไหลถวายดอกไม้จันทน์เนืองแน่น 26 ตุลาคม

ที่พระเมรุมาศจำลอง บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต จุดนี้เป็นจุดถวายดอกไม้จันทน์ที่อยู่ในเขตพระราชฐาน และเป็นสถานที่สำคัญ เมื่อครั้ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ทำให้ประชาชนหลายคนเลือกเดินทางมาเข้าคิว ถวายดอกไม้จันทน์ ณ จุดนี้ จำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด

ประชาชนส่วนใหญ่ บอกว่า ตั้งใจมาร่วมถวายดอกไม้จันทน์ ที่นี่เพราะเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับพระบรมหาราชวังและมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และพบว่าหลายคนได้ไปร่วมต่อแถวยังจุดคัดกรองรอบท้องสนามหลวงแต่พื้นที่เต็ม ก่อนเดินทางมาถวายดอกไม้จันทน์ที่พระเมรุมาศจำลองจุดนี้ โดยแม้การจัดแถวเข้าถวายดอกไม้จันทน์ที่พระลานพระราชวังดุสิตจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ตลอดทั้งวันประชาชนเดินทางเข้าพื้นที่อย่างไม่ขาดสาย ส่งผลให้บางช่วงเวลา ปลายแถวบริเวณถนนศรีอยุธยา จุดคัดกรองแยกพล.1 ยาวไปถึงหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ปลายแถวบริเวณถนนราชดำเนินนอก ทั้ง 2 ฝั่งยาวไปถึงแยกมิสกวัน ขณะที่ปลายแถวถนนศรีอยุธยายาวไปถึงวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร แต่ประชาชนก็ไม่ย่อท้อ เดินทางกันมาอย่างต่อเนื่อง แม้สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เพราะถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้กราบถวายบังคมลา

ส่วนที่ลานปฐมบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 1 จุดที่ตั้งพระเมรุมาศจำลอง เป็นอีกหนึ่งจุด ที่หนาแน่นไปด้วย ประชาชน ที่มาร่วมถวายดอกไม้จันทน์ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยจุดนี้ เปิดให้ประชาชน มารอถวายดอกไม้จันทน์ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของเมื่อวานนี้ ทำให้แถวของประชาชนยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ตั้งแต่ด้านหน้าจุดคัดกรองแยกพาหุรัด แยกบ้านหม้อ ผ่านซอยทิพย์วารี มาที่หน้าห้างดิโอลด์สยามพลาซ่า โดยท้ายแถวอยู่ที่ยอดพิมาน ปากคลองตลาด ฝ่ายอำนวยการ ประเมินว่าพระเมรุมาศจำลอง ที่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า มีประชาชนมาร่วมวางดอกไม้จันทน์มากกว่า 2 แสนคน

ที่พุทธมณฑล นับเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีประชาชนจำนวนมาก เดินทางมาถวายดอกไม้จันทน์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยจุดนี้เป็นจุดที่พระภิกษุสงฆ์ รวม 1,300 รูป ได้ร่วมวางดอกไม้จันทน์ นับเป็นจุดที่มีพระภิกษุสงฆ์ร่วมวางดอกไม้จันทน์มากที่สุดในประเทศด้วย

โดยที่พุทธมนฑล ตลอดช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ลานหน้าวิหารพุทธมณฑล เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายดอกไม้จันทร์นับแสนคนตั้งแต่ช่วงเช้า  ทำให้พื้นที่ด้านใน และตลอดแนวถนนพุทธมณฑลสาย 4 มีประชาชนเฝ้ารอต่อแถวผ่านจุดคัดกรองรวมทั้ง 2 ฝั่ง แถวยาวกว่า 8 กิโลเมตร แต่ทุกคนก็ไม่ย่อท้อ แม้จะรอนานหลายชั่วโมง เพราะตั้งใจมาเพื่อร่วมถวายดอกไม้จันทน์

อีก 1 จุด ที่ประชาชนไปวางดอกไม้จันทน์ คือ ที่วัดเสมียนนารี ประชาชนทยอยเดินทางมาอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน ท่ามกลางการกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่เขตจตุจักร และจิตอาสา ทุกคนล้วนเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การถวายดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นไปอย่างสมพระเกียรติสูงสุด

ขณะที่ชาวหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปรอต่อคิวถวายดอกไม้จันทน์ที่พระเมรุมาศจำลอง วัดห้วยมงคล กันอย่างเนืองแน่นตั้งแต่ช่วงเช้า แม้หลายคนจะรอคิวนานกว่า 7 ชั่วโมงแต่ก็ไม่ท้อ แม้กระทั่งหางแถวยาวออกไปจนถึงนอกวัด ทำให้ช่วงบ่ายเป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ต้องปรับแถวจาก9 เป็น 15 และ 20 แถว ตามลำดับ เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้ร่วมถวายดอกไม้จันทน์  และน้อมกราบบังคมลา ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย

นายกฯ ขอบคุณปชช.น้อมสำนึกในหลวง ร.9 สมพระเกียรติ

พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณประชาชนชาวไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ได้ร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อย่างสุดซึ้ง ว่าถือเป็นการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและเคารพเทิดทูนต่อองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ด้วยความงดงามและสมพระเกียรติอย่างสูงสุด รวมทั้งขอบคุณมิตรประเทศและประชาคมโลกที่ได้ร่วมถวายความอาลัย และส่งความปรารถนาดีมายังประเทศไทยในช่วงเวลาเช่นนี้

โดยพระราชภารกิจที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงบำเพ็ญเพื่อปวงชนชาวไทยมาตลอดรัชสมัย 70 ปี ได้ปลดเปลื้องลงแล้วโดยสมบูรณ์ ขอให้ประชาชนสะกดกลั้นความโศกเศร้าและแปรเปลี่ยนเป็นพลัง เพื่อทำหน้าที่ของตนเอง ร่วมกันรักษาและพัฒนาแผ่นดินไทยให้เจริญรุ่งเรืองสมดังพระราชเจตนารมณ์สืบไป

"พล.อ.ประวิตร" เผยปชช.ผ่านจุดคัดกรอง 150,000 คน

ด้านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่เข้ามายังพื้นที่ชั้นในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนทำให้ทุกอย่างผ่านไปเรียบร้อย ซึ่งมีประชาชนเข้าอยู่ในพื้นที่ชั้นในจุดคัดกรอง ถึง 1.5 แสนคน และยังมีประชาชนที่ไม่สามารถเข้ามายังจุดคัดกรองได้อีกกว่า 2 แสนคน ซึ่งทำให้อาจไม่ได้รับความสะดวก และเห็นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ไม่ชัดเจน แต่ทุกคนก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางมาส่งเสด็จในครั้งนี้

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ